เลเซอร์หน้าใส แก้ปัญหาผิวด้านใด ราคาเท่าไหร่

เลเซอร์หน้าใส วิธีการแก้ไขปัญหาผิว เช่น รอยดำ ริ้วรอย สิว หรือสิวอุดตันเป็นวิธีการแก้ไขเพื่อให้ผิวดูสวยขึ้น ในปัจจุบันเลเซอร์หน้าใสกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการแก้ปัญหาผิวของผู้คนมากขึ้น เนื่องจากมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น เลเซอร์หน้าใสไม่เพียงแค่ช่วยให้ผิวดูสดใสและเปล่งปลั่ง เเต่ยังช่วยให้กลายเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาผิวที่มีประสิทธิภาพและมีผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วย

เลเซอร์หน้าใส คือ

เลเซอร์หน้าใส หรือเลเซอร์เพื่อผิวหน้า คือกระบวนการที่ใช้เลเซอร์เพื่อรักษาหรือปรับปรุงสภาพผิวหน้า วิธีการใช้เลเซอร์ที่แตกต่างกันอาจมีอยู่หลายแบบตามวัตถุประสงค์และสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยมีการใช้แสงเลเซอร์เข้าไปยับยั้งการสร้างเซลล์ผิวที่ผิดปกติ หรือกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน เพื่อให้ผิวดูสมบูรณ์แข็งแรงมั่นคงในระยะยาว 

โดยกลุ่มเลเซอร์ที่นิยมใช้ในการ แก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้า ส่วนใหญจะเป็นในกลุ่ม เลเซอร์หน้าใส Perfect Q Laser, ND-Yag, Fractional และ Dual Yellow Laser เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการแก้ไขปัญหาผิวที่สุด เพราะ เป็นวิธีการเลเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่เกิดการตกสะเก็ดหลังทำ และแก้ปัญหาร่องรอยบนใบหน้าได้ดี ทั้งใน จุดที่มีรอยดำ รอยแดงจากสิว และทำให้ใบหน้าดูกระจ่างใสขึ้น

ปัญหาใบหน้าหมองคล้ำ มีร่องรอย เกิดจากเหตุใด

เพราะใบหน้าเป็นสิ่งที่บอบบาง ปัจจัยที่ทำใบหน้าหมองคล้ำ มักจะเกิดจากแสงแดด ฝุ่นควันและมลภาวะ นั้นเป็นเหตุผลที่ใบหน้าหมองคล้ำ การมั่นทำความสะอาดจะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้า แต่หากทำความไม่หมดจด ก็อาจเกิดคราบมันฝังลึก สิวอุดตันรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว

เลเซอร์หน้าใสช่วยแก้ปัญหาผิวด้านใดบ้าง

โดยปกติผิวจะมีการผลัดเองในทุก 4-5 สัปดาห์ เพื่อกำจัดผิวที่ตายและสร้างผิวใหม่ขึ้นทดแทน แต่การเลเซอร์หน้าใส จะช่วยให้ผิวผลัดเซลล์ใหม่เร็วขึ้น ผิวที่ขึ้นมาใหม่ก็จะกระจ่างใสขึ้น สามารถช่วยแก้ปัญหา ลดรอยสิว รอยแดงที่เกิดจากสิว การลดริ้วรอย การลดจุดด่างดำ รวมถึงยังช่วยลดรูขุมขนตามใบหน้าให้กระชับขึ้น ใบหน้ากระจ่างใสไร้ริ้วรอย

เลเซอร์หน้าใสมีอะไรบ้าง แก้ปัญหาใดบ้าง

วิธีการทำเลเซอร์ในปัจจุบันมีอย่างหลากหลายแบบ แต่ละเครื่องเลเซอร์มี จุดเด่น-จุดด้อย แตกต่างกันไป ช่วยแก้ปัญหาผิวด้านใดบ้าง

1. Perfect Q Laser

เป็นเครื่องที่จะมีความยาวคลื่นอยู่ 2 แบบ (ความยาวคลื่นแสง 532 และ 1064 นาโนเมตร) ซึ่งแต่ละความยาวคลื่นก็จะมีการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยเป็นการปล่อยพลังงานเลเซอร์เข้าไปทำให้เม็ดสีแตกตัว และกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้น ลดรอยดำ กระ ฝ้า กระชับรูขุมขน หรือการใช้ลบรอยสัก แต่ก็จะมีข้อเสียคือ หลังทำการเลเซอร์ ผิจะมีการตกสะเก็ดมากกว่าการทำเลเซอร์แบบอื่น

2. Fractional Co2 Laser

เป็นเลเซอร์ที่มีความแม่นยำสูง จะมีการยิงลำแสงเป็นจุดเล็กๆ หลายจุดเรียงกันเป็นตาราง ใช้ในการกระตุ้นเซลล์ผิวเก่าออก และผลัดเซลล์ใหม่ที่กระจ่างใสขึ้นมา เช่น การใช้กระตุ้นหลุมสิว ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น 

จุดด้อยคือ ผิวจะลอกและตกสะเก็ด เมื่อโดนแดดผิวอาจไหม้มีรอยแดงได้

3. E-Matrix Laser

เป็นการยิงเลเซอร์แก้ปัญหาผิว โดยการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Fractional: RF) ยิงให้เกิดแผลบนใบหน้า เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาทดแทน และยังช่วยกระตุ้นปัญหาหลุมสิวให้ตื้นขึ้นและจางลง 

จุดด้อย ผิวจะตกสะเก็ดอย่างมาก และเพราะเป็นการยิงเพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน เพื่อใช้ในการรักษาหลุมสิว ซึ่งต้องใช้คอลลาเจนจำนวนมาก จึงต้องมียิงเลเซอร์ 3-4 ครั้งเป็นอย่างต่ำเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน

4. IPL laser

เป็นคลื่นพลังงานแสงกว้างขนาด 500-1,200 นาโมเมตร ใช้ในการปรับเซลล์ผิวให้ใสขึ้น และอ่อนโยนต่อผิวเพราะเป็นการยิงเลเซอร์ถึงผิวชั้นตื้น แต่ผลการเปลี่ยนแปลงจะไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่เป็นที่นิยมเพราะราคาไม่สูง

จุดด้อย ค่อนข้างเสียเวลาในการทำอย่างต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์ 6-7 ครั้ง เซลล์ผิวถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงดูกระจ่างใสขึ้น

5. Dual Yellow Laser

Dual Yellow Laser เลเซอร์หน้าใสเป็นการผสมผสานระหว่างเลเซอร์สีเหลืองและสีเขียว เป็นนวัตกรรมการเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเป็นวิธีที่อ่อนโยนต่อผิวหน้ามากที่สุด เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะจุด ไม่เกิดการทำลายชั้นผิว ไม่เกิดรอยแผล หรือการตกสะเก็ด หลังจากการทำเลเซอร์ 

จุดด้อย เป็นการแก้ปัญหาจากรอยดำจากสิวหรือรอยแดง แต่จะไม่สามารถแก้ปัญหาผิวที่เป็น รอยฝ้า กระ รอยดำลึก