ฟิลเลอร์จมูก อันตรายจริงไหม ทำไมหมอไม่แนะนำ

เชื่อว่ามีหลายคนที่ให้ความสนใจ เกี่ยวกับการเสริมจมูกด้วยวิธีการต่างๆ เช่นการศัลยกรรม การร้อยไหมและการ ฉีด ฟิลเลอร์จมูก การเสริมจมูกด้วยวิธีการเหล่านี้ ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน ซึ่งการเสริมจมูกอย่างการฉีดฟิลเลอร์จมูก ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่ยังไม่กล้าศัลยกรรมผ่าตัดเสริมจมูก แต่การฉีดฟิลเลอร์จมูก นั้นเป็นอย่างไร อันตรายไหม หรืออยู่ได้นานแค่ไหน บทความนี้พร้อมตอบทุกข้อสงสัยค่ะ

ฟิลเลอร์จมูกคืออะไร

ฟิลเลอร์จมูก (Nose Filler) คือการฉีดฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) บริเวณจมูกช่วยให้จมูกได้รูปทรงที่สวยงามมากขึ้น โดยไม่จำเป็นจะต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นเป็นระยะเวลานาน ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์ควรได้รับการปรึกษาและทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ฟิลเลอร์จมูกอันตรายจริงไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์บริเวณจมูกนั้นมีความเสี่ยงที่สูง เนื่องจากบริเวณจมูกมีเส้นเลือดจำนวนมากและใกล้เคียงกับบริเวณตาซี่งมีความเสี่ยงที่ฟิลเลอร์จะเข้าไปอุดตันเส้นเลือดและทำให้ตาบอดได้ หลายคนจึงค่อนข้างกังวลกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และเลือกที่จะศัลยกรรมเสริมจมูกมากกว่า

แต่สำหรับบางท่านที่ต้องการปรับแต่งรูปทรงของจมูกเพียงชั่วคราวหรือกลัวการผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์จมูกยังคงตอบโจทย์กับข้อจำกัดเหล่านี้อยู่ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จำเป็นจะต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น เพราะไม่ใช่แพทย์ทุกคนที่ฉีดฟิลเลอร์ได้ จะสามารถฉีดฟิลเลอร์บริเวณจมูกได้นั่นเอง

ฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับใคร ?

1.คนที่ต้องการปรับรูปทรงจมูกเพียงเล็กน้อย

เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปทรงของจมูกจากเดิม เช่น การปรับแก้ไขปลายจมูก และการปรับรูปทรงของจมูกให้เข้ากับรูปร่างหน้าตามากขึ้น ในกรณีที่ทรงจมูกดีอยู่แล้วและต้องการให้คมชัด ดูสวยมากขึ้น แต่การแก้ไขปลายจมูกให้พุ่งขึ้นไม่เหมาะกับท่านที่มีปลายจมูกกว้างหรือใหญ่

2.ไม่ต้องการศัลยกรรมเสริมจมูก

สำหรับท่านที่ไม่ต้องการศัลยกรรมเสริมจมูกเพราะกังวลเกี่ยวกับระยะเวลาพักฟื้นและอาการบาดเจ็บ การฉีดฟิลเลอร์จมูกจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะสม ทั้งนี้รวมถึงคนที่ไม่ได้วางแผนในการศัลยกรรมจมูกในอนาคตเช่นกัน เนื่องจากอาจจะเกิดปัญหายึดเกาะของตัวซิลิโคนกับจมูกได้ หรือหากมีการแก้จมูกที่ทำการผ่าตัดไปแล้ว อาจมีผลตามมาทั้งการเสียเงินที่แพงกว่าการเสริมจมูกเนื่องจากเป็นเคสแก้ที่จำเป็นจะต้องเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการดูแล

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์จมูก

1.เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกหลังทำการฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์จมูกหลายคนสามารถเห็นผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลงของรูปทรงจมูกได้ทันทีหลังทำ ซึ่งแตกต่างกับการทำศัลยกรรมที่จำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

2.การทำฟิลเลอร์จมูกให้ผลลัพธ์เพียงชั่วคราวเท่านั้น

การฉีดฟิลเลอร์ตามบริเวณต่างๆของใบหน้าหรือแม้กระทั่งจมูกไม่สามารถคงอยู่ได้ถาวร โดยจะอยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์และจะสลายไปเองตามธรรมชาติ หมายความว่าถ้าหากต้องการปรับเปลี่ยนรูปทรงของจมูกก็สามารถทำได้ในภายหลังเช่นกัน

3.ไม่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน

หลังการฉีดฟิลเลอร์จมูกคนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันปกติได้ทันทีเนื่องจากไม่มีการบวม ช้ำและรอยแผลหลังทำ แต่จำเป็นจะต้องดูแลรักษาหลังการฉีดฟิลเลอร์จมูกอย่างถูกวิธีเพื่อให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น ซึ่งแตกต่างจากการทำศัลยกรรมที่จำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์จมูก

1.ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

การฉีดฟิลเลอร์จมูกมีความเสี่ยงเนื่องจากเป็นบริเวณใกล้ดวงตาและมีเส้นเลือดจำนวนมาก หากไม่ได้รับการทำหัตถการโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญอาจเกิดผลข้างเคียงต่างๆเช่น อาการบวมและช้ำ ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดทำให้ตาบอดได้ เป็นต้น

2.ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการศัลยกรรมในอนาคต

หากคุณวางแผนที่จะทำการศัลยกรรมจมูกในอนาคตทาง Amarante Clinic ไม่แนะนำให้ทำการฉีดฟิลเลอร์จมูกเนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงต่อการเกาะตัวของซิลิโคนกับเนื้อเยื่อจมูก ซึ่งในบางรายจำเป็นจะต้องทำการขูดเนื้อเยื่อจมูกก่อนนำซิลิโคนใส่เข้าไป

3.ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนเท่าการศัลยกรรม

การฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเท่ากับการทำศัลยกรรมและมีข้อจำกัดในหลายๆด้าน เช่น การปรับรูปทรงของจมูกหากต้องการให้จมูกมีความโด่งมาก คนไข้จำเป็นจะต้องมีฐานจมูกเดิมที่สามารถเติมเต็มในส่วนนี้ได้ รวมถึงการฉีดฟิลเลอร์จมูกจำเป็นที่จะต้องได้รับการทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อการปั้นรูปจมูกให้มีรูปทรงที่สวยงาม

ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูก

1.งดการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง

2.หากมีโรคประจำตัวหรือมียาที่จำเป็นต้องรับประทานเป็นประจำควรแจ้งแพทย์ที่ดูแลก่อนทำทุกครั้ง

3.งดรับประทานกลุ่มยาและวิตามินบางชนิด เช่น แอสไพริน, Vitamin E, ใบแป๊ะก๊วย ,โสมและน้ำมันปลาซึ่งอาจมีผลทำให้แผลช้ำ เลือดหยุดไหลช้า

4.ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์และเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อ ปลอดภัย รวมถึงแพทย์ที่ดูแลจำเป็นที่จะต้องมีประสบการณ์

สรุป

แม้การฉีดฟิลเลอร์จมูกสามารถตอบโจทย์สำหรับบางท่านที่ต้องการปรับรูปทรงของจมูกโดยไม่ผ่านการศัลยกรรม แต่เนื่องจากข้อจำกัดหลายอย่างจึงจำเป็นจะต้องใช้เวลาในการศึกษาหาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประกอบการตัดสินใจ