อาการบวมช้ำจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้ใครหลายคนกังวลใจ ว่าจะเป็นภาวะแทรกซ้อนหรือเปล่า และจำเป็นต้องดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อให้ริมฝีปากกลับมาสวยเป็นปกติได้เร็วขึ้น อาการบวมจะหายเมื่อไร ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนมาคลายข้อสงสัยกันว่า หลังฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันหายบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ปากช้ำม่วงจะหายไหม ต้องดูแลอย่างไร เพื่อให้อาการบวม และรอยแดงจากเข็มหายไวกว่าเดิม มาดูกัน
ฉีดฟิลเลอร์แล้วปากบวมเกิดจากอะไร
อาการฉีดฟิลเลอร์ปากช้ำม่วง หรือมีรอยแดงที่ริมฝีปาก เป็นหนึ่งในผลข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้ และพบได้โดยทั่วไป โดยมีสาเหตุมาจากการที่เข็มจิ้มลงในเนื้อเยื่อนิมฝีปาก จนทำให้เกิดความระคายเคืองขึ้น ซึ่งระดับความรุนแรงนั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคนไข้แต่ละคนที่มีความ Sensitive ไม่เท่ากัน เช่น ถ้าหากเป็นคนผิวบางก็จะเกิดอาการบวมช้ำได้ง่ายกว่าคนที่มีผิวแข็งแรง เป็นต้น
ฉีดฟิลเลอร์แล้วปากบวมมีลักษณะเป็นอย่างไร
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากใน 2 – 3 วันแรก อาจมีอาการฉีดฟิลเลอร์ปากช้ำม่วงเกิดขึ้นได้ เพราะริมฝีปากที่เกิดการระคายเคือง โดยอาการเหล่านี้ไม่ใช่อาการที่อันตราย และสามารถหายเองได้ภายใน 5 – 7 วัน โดยอาการฉีดฟิลเลอร์ปากบวมช้ำนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระยะ ได้แก่
- อาการบวมหลังฉีด (Immediate Swelling)
เป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังจากฉีดฟิลเลอร์ ที่ทำให้ริมฝีปากดูบวมมากกว่าปกติ และอาจมีรอยแดงร่วมด้วย
- อาการบวมในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงแรก (Post-Injection Swelling)
ในระยะนี้ อาการบวมจะเพิ่มขึ้นจากในช่วง 24 ชั่วโมงแรก และอาจมีอาการตึง ๆ หรือรู้สึกไม่สบายที่ริมฝีปาก รู้สึกหน่วง ๆ ที่ริมฝีปาก และอาจมีอาการช้ำม่วง ที่ทำให้ริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีเขียว หรือสีม่วงได้
แต่ถ้าหากฉีดฟิลเลอร์ปากมาแล้ว 2 สัปดาห์ แต่อาการบวมช้ำก็ยังไม่หายไปสักที หรือมีอาการปวดบวมรุนแรง หรือมีอาการอักเสบ ติดเชื้อ ให้รีบพบแพทย์อย่างเร่งด่วน และไม่ควรบรรเทาอาการด้วยการประคบเย็นด้วยตัวเอง เพราะอาจเป็นอาการบวมที่เกิดจากการติดเชื้อหรือแพ้ฟิลเลอร์ได้ และยังอาจทำให้เนื้อฟิลเลอร์ไหลไปยังบริเวณอื่นได้ด้วย
สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาฉีดฟิลเลอร์ปาก ช้ำม่วง หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ Amarante Clinic พร้อมให้คำปรึกษา ดูแล และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้คุณมั่นใจในผลลัพธ์ได้จากการฉีดฟิลเลอร์ สร้างความมั่นใจในทุกช่วงเวลา
อาการช้ำหลังโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันหาย?

อาการฉีดฟิลเลอร์ปากช้ำม่วง เกิดจากการที่เส้นเลือดฝอยบริเวณริมฝีปากได้รับการกระทบกระเทือนจากเข็มฉีดยา ทำให้เกิดเป็นรอยช้ำสีม่วง หรือสีแดง ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันหาย ในส่วนนี้ เราสามารถให้คำตอบได้ว่า โดยทั่วไปแล้วอาการบวมช้ำจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก จะหายไปภายใน 7 – 14 วัน โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น
- สภาพผิวของแต่ละบุคคล
- เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปากของแพทย์
- การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
ซึ่งถ้าหากต้องการให้รอยช้ำเหล่านั้นหายไปเร็วมากขึ้น เราสามารถใช้วิธีการประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการได้
อาการช้ำแบบใดที่ต้องรีบมาพบแพทย์?

สำหรับอาการฉีดฟิลเลอร์ปากช้ำม่วงอย่างรุนแรงนั้น ถือเป็นหนึ่งในผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ปากที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก ๆ จนแทบไม่มีเลย แต่ถ้าหากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพื่อให้แพทย์ทำการประเมิน และแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
- มีอาการบวมช้ำรุนแรงผิดปกติ และไม่มีอาการลดลงเลยภายใน 3 – 5 วัน
- มีอาการปวดมากผิดปกติ หรือมีอาการแสบร้อนที่ริมฝีปาก
- มีอาการริมฝีปากซีด หรือเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการอุดตันของเส้นเลือด
- มีตุ่มน้ำ หรือหนองเกิดขึ้นในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ จากการแพ้สารบางชนิดในฟิลเลอร์
การดูแลตัวเองเพื่อลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
สำหรับคนที่มีอาการฉีดฟิลเลอร์ปากช้ำม่วง ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมช้ำ เพื่อให้ริมฝีปากเข้าที่ได้เร็วขึ้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ทำการประคบเย็นภายใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการปวดบวม
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้ดี อิ่มฟู และอยู่ได้นานขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือกดนวดบริเวณริมฝีปากที่ฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติก หรือเครื่องสำอางในบริเวณริมฝีปาก ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงการใช้หลอดดูดน้ำ และงดสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ด เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการอักเสบได้ง่าย
สำหรับใครที่ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หรือมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ ที่ Amarante Clinic ยินดีให้คำปรึกษา และดูแลทุกท่านโดยแพทย์มืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า จะได้รับการดูแลที่เหมาะสม และรักษาอาการบวมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

อาหาร ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้อาการฉีดฟิลเลอร์ปากบวมช้ำยุบช้าลง และยังอาจทำให้เกิดอาการบวมรุนแรงมากขึ้นด้วย ดังนั้น หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก จึงมีอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในการรับประทาน ดังนี้
- อาหารรสจัด และเผ็ด เพราะอาจทำให้ริมฝีปากระคายเคืองได้
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เส้นเลือดขยายตัว และทำให้อาการบวมช้ำแย่ลง
- อาหารที่ต้องเคี้ยวมาก ๆ เช่น สเต็ก หรืออาหารแข็ง ๆ
- อาหาร และเครื่องดื่มร้อนจัด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ละลายเร็วมากขึ้น
- วิตามิน หรืออาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- อาหารดิบ หรือไม่ปรุงสุกจากร้านที่ไม่สะอาด
สรุป
โดยสรุปแล้ว อาการฉีดฟิลเลอร์ปากช้ำม่วง เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยอาการฉีดฟิลเลอร์บวมช้ำนั้นจะดีขึ้นภายใน 3 – 7 วัน และรอยบวมช้ำเองก็จะหายไปภายใน 7 – 14 วันเช่นกัน และด้วยเคล็ดลับวิธีดูแลรักษาหลังฉีดฟิลเลอร์ที่เราได้แนะนำไปเองก็สามารถทำตามได้ง่าย ๆ เพื่อลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียง และคงผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีอาการบวมผิดปกติ เช่น บวมรุนแรง อักเสบ ริมฝีปากเปลี่ยนสี หรือมีอาการปวดมาก ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที
ผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ Amarante Clinic
ทาง Amarante Clinic เรามีบริการฉีดฟิลเลอร์อย่างครอบคลุม ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ดำเนินการโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ ให้คำปรึกษา ประเมินปัญหาเฉพาะบุคคล และวางแผนการรักษาให้เหมาะสมแบบเคสต่อเคส ใช้เทคนิคเฉพาะในการฉีดฟิลเลอร์ที่ให้ประสิทธิภาพที่ดี ไม่เป็นก้อน เรียบเนียนไปกับผิว เน้นปรับใบหน้าให้สวยงาม และดีขึ้นในฉบับของตัวเอง พร้อมเลือกใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมนัดติดตามผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์โดยตรง ใส่ใจทุกรายละเอียดในการให้บริการ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลหรือดูรีวิวเพิ่มเติมได้ภายในเว็บไซต์ หรือปรึกษาปัญหาเบื้องต้นได้ตามช่องทางด้านล่างนี้
ขอบคุณคุณลูกค้าทุกท่านที่สนใจโปรโมชั่นดีๆ ของ Amarante Clinic นะคะ
🚩อย่าลืมแอดไลน์ http://bit.ly/3ZYmsMB เพื่อที่จะไม่พลาดโปรโมชั่นสุดพิเศษนะคะ
😄 หรือสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย
✅ Line คลิก > http://bit.ly/3ZYmsMB
✅ Inbox Facebook คลิก > http://bit.ly/3TrFOr0
✅ Instagram คลิก > http://bit.ly/3Z20siT
📍สาขาอารีย์ : อาคารบ้านยสวดี (BTS อารีย์ ทางออกที่ 3)
📞080-393-6669
📍สาขาบางนา : For You Park
📞080-556-5294
📍ทั้ง 2 สาขา มีที่จอดรถ สะดวกสบาย
🕘เปิดให้บริการทุกวัน : 11.00-20.00 น.