ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?

ฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร รวมเรื่องที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมในปัจจุบันที่ช่วยแก้ไข และปรับรูปหน้าให้สวยงามได้อย่างเห็นผลโดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แต่ก่อนที่จะตัดสินใจฉีด Filler มีเรื่องอะไรบ้างที่เราควรรู้ ในวันนี้ เราจะมาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันว่า ฟิลเลอร์คืออะไร Filler ช่วยอะไรได้บ้าง เตรียมตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้เหมาะสม จะเป็นอย่างไร ไปดูกัน

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?

ฟิลเลอร์ (Filler) หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อของสารเติมเต็มชนิดหนึ่ง ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในวงการความงาม โดยเฉพาะสารกลุ่มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติในร่างกายของเรา และเมื่ออายุมากขึ้น สารนี้ก็จะค่อย ๆ ลดลง ทำให้ผิวของเราเกิดความหย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยขึ้น ทำให้การฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นตัวช่วยเสมือนกับการเติมเต็มเพื่อทดแทนส่วนที่ขาดหายไป และช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้าของเราได้

ประเภทของ ฟิลเลอร์ มีอะไรบ้าง?

สำหรับประเภทของฟิลเลอร์ที่เรานิยมใช้กันในปัจจุบันนี้ จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  • กลุ่มฟิลเลอร์ถาวร (Permanent Filler)

เช่น ซิคิโคนเหลว หรือน้ำมันพาราฟิน โดยฟิลเลอร์กลุ่มนี้จะมีจุดเด่นคือจะไม่เกิดการสลายตัวไปจากร่างกายของเราเลย แต่จะมีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างสูง รวมทั้งยังไม่ได้รับการรับรองจาก อย. อีกด้วย จึงเป็นประเภทของ Filler ที่คุณหมอส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้นำมาฉีดฟิลเลอร์

  • กลุ่มฟิลเลอร์กึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler)

เช่น สาร PMMA หรือสารโพลีอัลคิลลิไมด์ โดยฟิลเลอร์กลุ่มนี้จะสามารถสลายตัวได้บางส่วน แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดปัญหาในระยะยาวอยู่ เช่น เกิดปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล หรือเกิดการอักเสบติดเชื้อที่ทำให้หน้าผิดรูปได้ นอกจากนี้ ฟิลเลอร์กลุ่มนี้ยังไม่ผ่านการรับรองจาก อย. ด้วย

  • กลุ่มฟิลเลอร์ชั่วคราว (Temporary Filler)

เช่น ฟิลเลอร์ประเภทสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid หรือ HA Filler) หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่า ฟิลเลอร์แท้ ซึ่งสารนี้คือสารที่ได้สังเคราะห์ขึ้นมาให้คล้ายกับ HA ที่มีอยู่ในร่างกายของเรา ทำให้ฟิลเลอร์ชนิดนี้สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และเป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ได้รับการรับรองจาก อย. ว่าไม่เป็นอันตราย และใช้งานกันอย่างแพร่หลายในวงการความงามปัจจุบัน

ดังนั้น ถ้าหากจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ คุณหมอจึงแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ในกลุ่มชั่วคราว หรือ HA Filler เท่านั้น เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์ และไม่เป็นอันตรายต่อใบหน้าของเรา

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?

การฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีดสารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA Filler) เข้าไปในบริเวณที่ต้องการ เพื่อแก้ไขปัญหา และปรับรูปหน้าให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น โดยสาร HA นั้นเป็นสารที่สามารถพบได้ในร่างกายของเราอยู่แล้ว และสารนี้ก็จะลดลงเรื่อย ๆ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอย และความหย่อนคล้อยขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ จึงเป็นการช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกของเราให้ดูเต็มอิ่ม ปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนและดูอ่อนเยาว์ รวมทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวของเราดูเปล่งปลั่งมากขึ้นด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ช่วยอะไร?

การฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยเติมเต็มให้ใบหน้าของเรากลับมาดูอ่อนเยาว์ สดใส และมีสัดส่วนที่สวยงามมากขึ้นโดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ซึ่งโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์นั้นสามารถทำได้หลายจุด ขึ้นอยู่กับจุดที่ต้องการเติมเต็มหรือแก้ไข โดยมีจุดที่ได้รับความนิยม ดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อเติมเต็มร่องลึกให้ใบหน้าดูอิ่มฟู และเต่งตึง
  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ลดรอยคล้ำ ทำให้ดวงตาดูสดใส
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อเพิ่มปริมาตรให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม
  • ฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อเพิ่มความโด่ง ปรับรูปหน้าให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เพื่อเติมเต็มใบหน้าให้ดูเต็มอิ่ม ไม่โทรม
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพื่อเติมเต็มรอยย่น ให้หน้าผากดูเรียบเนียน
  • ฉีดฟิลเลอร์จมูก เพื่อเสริมสันจมูกให้ดูโด่ง สวยงาม
  • ฉีดฟิลเลอร์มือ เพื่อเติมเต็มให้มือดูสวย อวบอิ่ม
  • ฉีดฟิลเลอร์หลังมือ เพื่อให้หลังมือดูเรียบเนียน น่าสัมผัส

ฟิลเลอร์ สามารถฉีดในจุดไหนได้บ้าง ? ใช้ปริมาณกี่ cc

ฟิลเลอร์ สามารถฉีดในจุดไหนได้บ้าง ? ใช้ปริมาณกี่ cc

อย่างที่อธิบายไปในหัวข้อที่แล้วว่า โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์นั้นสามารถทำได้หลายจุดเพื่อแก้ปัญหา และปรับลุคให้สวยขึ้น ซึ่งแต่ละจุดก็จะมีปริมาณที่เหมาะสมที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีด ปัญหาที่ต้องการแก้ไข และผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยแต่ละจุดมีตัวอย่างการใช้ปริมาณ CC ดังนี้

  • บริเวณร่องแก้ม ใช้ Filler ปริมาณ 1 – 2 CC
  • บริเวณใต้ตา ใช้ Filler ปริมาณ 1 – 3 CC
  • บริเวณริมฝีปาก ใช้ Filler ปริมาณ 1 CC
  • บริเวณคาง ใช้ Filler ปริมาณ 1 – 2 CC
  • บริเวณขมับ ใช้ Filler ปริมาณ 2 – 3 CC
  • บริเวณหน้าผาก ใช้ Filler ปริมาณ 2 – 3 CC
  • บริเวณจมูก ใช้ Filler ปริมาณ 1 CC
  • บริเวณมือ ปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับลักษณะของความหย่อนคล้อยของมือ

เข็มที่ใช้ในการฉีด ฟิลเลอร์

เข็มที่ใช้ในการฉีด ฟิลเลอร์

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะเลือกใช้เข็มอยู่ 2 แบบเป็นหลัก นั่นก็คือ เข็มปลายแหลม และเข็มปลายทู่ ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดี และความเหมาะสมในบริเวณที่แตกต่างกันออกไป และเพื่อให้เข้าใจง่ายมากขึ้น ลองมาดูกันว่า เข็มทั้ง 2 แบบนี้มีต่างกันอย่างไรบ้าง

เข็มปลายแหลม

เป็นเข็มที่มีความคมคล้ายกับเข็มฉีดยาทั่วไป ทำให้สามารถแทงผ่านชั้นผิวได้อย่างง่ายดาย และแม่นยำ

ข้อดีของเข็มปลายแหลม

  1. ใช้งานง่าย และแม่นยำสูง ด้วยคุณสมบัติที่มีความคมซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถควบคุมการฉีดได้ง่าย
  2. เหมาะกับการใช้ในจุดที่ต้องการความแม่นยำ และมีความละเอียดอ่อนสูง เช่น การฉีดในบริเวณที่ต้องปรับรูปหน้าอย่างขมับ หรือการเติมเต็มเฉพาะจุดต่าง ๆ

ข้อจำกัดของเข็มปลายแหลม

  1. เนื่องจากปลายเข็มมีความคม ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการบวมช้ำสูงกว่าถ้าหากเข็มไปโดนเส้นเลือดหรือเนื้อเยื่อเล็ก ๆ 
  2. มีความเสี่ยงมากกว่าเข็มปลายทู่หากฉีดเข้าเส้นเลือด ดังนั้น การเลือกแพทย์ที่จะเข้ารับบริการจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บที่อาจเกิดอันตรายร้ายแรง

เข็มปลายทู่

เป็นเข็มที่มีลักษณะทู่มน ไม่มีคม คล้ายกับท่อขนาดเล็ก ทำให้ไม่ตัดผ่านเนื้อเยื่อหรือเส้นเลือดโดยตรง

ข้อดีของเข็มปลายทู่

  1. มีอันตรายน้อยกว่า และลดโอกาสในการเกิดอาการบวมช้ำได้มากกว่า
  2. มีรอยเปิดเข็มที่น้อย และช่วยให้แพทย์สามารถกระจายฟิลเลอร์ไปได้ทั่วบริเวณกว้าง ๆ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หรือใต้ตา
  3. เหมาะกับการใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ในจุดที่มีความละเอียดอ่อน และมีเส้นเลือดที่เยอะ เช่น บริเวณใต้ตาที่มีผิวบอบบาง และมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก

ข้อจำกัดของเข็มปลายทู่

  1. แพทย์จำเป็นต้องใช้เทคนิค และมีประสบการณ์ที่สูง เพราะการบังคับเข็มปลายทู่ให้ไปในทิศทางที่ต้องการนั้นยากกว่าเข็มปลายแหลม
  2. ความแม่นยำเฉพาะจุดน้อยกว่า และอาจไม่เหมาะกับการฉีดในจุดที่ต้องการความละเอียดสูงมาก ๆ หรือการฉีดชิดกระดูก

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

  • เห็นผลเร็ว ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น เห็นผลการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • ใช้เวลาในการทำเพียง 15 – 30 นาที และมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ ทำให้เจ็บน้อยมาก
  • สามารถแก้ปัญหาได้หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก หรือแม้แต่การปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน 
  • ไม่เป็นอันตราย สามารถสลายได้เอง หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานจาก อย. ที่สลายไปเองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย

ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

  • มีผลลัพธ์คงอยู่ไม่ถาวร HA Filler แท้จะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ โดยทั่วไปอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน 
  • มีค่าใช้จ่ายในระยะยาว หากมีการฉีดฟิลเลอร์ใหม่หลังจากสลาย
  • มีผลข้างเคียงเล็กน้อย หลังฉีดอาจมีอาการบวมแดง หรือมีรอยช้ำเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการทั่วไปและจะหายไปเองในเวลาไม่นาน
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด
  • ควรฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย หรือผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวต่อผู้เข้ารับบริการ

วิธีการดูฟิลเลอร์แท้

วิธีการดูฟิลเลอร์แท้

สำหรับวิธีในการตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ จะมีทั้งวิธีพื้นฐานที่เหมือนกันทุกแบรนด์ และวิธีการตรวจเช็กของแต่ละแบรนด์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

วิธีในการตรวจสอบทั่วไปสำหรับทุกแบรนด์

  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยที่ระบุชัดเจนบนกล่อง และในกล่อง
  • มีเลข Lot. ที่ตรงกันทุกจุดบนกล่อง และที่หลอดฟิลเลอร์ (ชุดตัวเลข และตัวอักษรระบุรุ่นการผลิต)
  • มี QR Code หรือสติกเกอร์เฉพาะของแบรนด์ ที่สามารถสแกนได้ หรือมีสติกเกอร์พิเศษเป็นสัญลักษณ์ที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบได้

วิธีในการตรวจสอบเฉพาะสำหรับแต่ละแบรนด์

  • Filler Restylane
    • จะมีสติกเกอร์โมโนแกรมคำว่า “VOID” ปิดปากกล่องเอาไว้
    • สามารถสแกน QR Code ด้วยแอป eZTracker Safety (หากมีหน้าจอเขียวแปลว่าเป็นฟิลเลอร์แท้)
    • ตรวจสอบเลข Lot ได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด
  • Filler Juvederm
    • ตรวจสอบเลข Lot ได้ทั้ง 4 จุด (บนกล่อง ถาด สติกเกอร์ และหลอด) จะต้องตรงกัน
    • ติดต่อสอบถามได้ที่บริษัท Allergan Thailand
  • Filler Belotero
    • ตรวจสอบเลข Lot ได้ทั้ง 3 จุด (บนกล่อง สติกเกอร์ และหลอด) จะต้องตรงกัน
    • แถบสีบนหลอด จะต้องเป็นสีเดียวกับสีบนกล่อง
    • ตรวจสอบเลข Lot ได้ที่บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์ แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่ดี จะช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และไม่เป็นอันตราย โดบขั้นตอนในการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อพูดคุยเรื่องของปัญหาที่มีความกังวลอยู่ ความต้องการ รวมถึงประวัติการรักษาต่าง ๆ เพื่อให้แพทย์ทำการประเมิน และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
  • งดทานยา และอาการเสริมบางชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด หรือตามคำแนะนำของแพทย์
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 – 2 วันก่อนฉีด เพราะอาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด และกระบวนการสมานแผล
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการทำหัตถการ

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

  1. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะทำการตรวจสอบสภาพผิวหน้า และปัญหาที่ต้องการแก้ไข เพื่อนำมาวิเคราะห์และแนะนำชนิด ปริมาณ และตำแหน่งในการฉีดฟิลเลอร์ที่เหมาะสมแก่ผู้เข้ารับบริการ
  2. อย่าลืมแจ้งคุณหมอเรื่องโรคประจำตัว ยาที่ทานอยู่ ประวัติการแพ้ และสิ่งที่คาดหวังจากการฉีดฟิลเลอร์
  3. ทำความสะอาดใบหน้าพร้อมทายาชา เพื่อเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
  4. แพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเข็มที่เหมาะสม โดยใช้เวลาในการทำหัตถการประมาณ 15 – 30 นาที
  5. แพทย์ทำการนวดอย่างอ่อนโยนในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ฟิลเลอร์กระจายตัว และปั้นทรงได้สวยงามตามต้องการ จากนั้นจึงประคบเย็นในบริเวณที่ฉีดเพื่อลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์
  6. นัดหมายติดตามผลลัพธ์ และอาการหลังฉีด
  7. หากผู้เข้ารับบริการพบปัญหาผลข้างเคียงรุนแรง เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน ผิวขรุขระ ผิวซีด เย็น ชา และไม่มีความรู้สึก ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว

ฟิลเลอร์ กี่วันเข้าที่ บวมกี่วัน ต้องพักฟื้นกี่วัน

หลังฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องกังวลเรื่องของการพักฟื้นเลย สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งโดยปกติแล้ว หลังจากฉีดฟิลเลอร์จะมีอาการบวมเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ตามปกติและจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเองภายในเวลาไม่นาน ส่วนฟิลเลอร์ที่ฉีดไปก็จะเริ่มเข้าที่และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์หลังฉีด และคงอยู่ยาวนาน (ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และบริเวณที่ฉีด) ก่อนที่จะสลายไปเองตามธรรมชาติ

หลังฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ดูแลตัวเองอย่างไร

  1. ประคบเย็นเบา ๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 1 – 2 วันแรก เพื่อช่วยลดอาการบวม
  2. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกรูปแบบ และการกดบริเวณที่ฉีด งดนวดหน้า ทำทรีตเมนต์ เลเซอร์ หรือเข้าซาวน่า รวมถึงงดออกกำลังกายหนัก ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์แรก เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่
  3. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ในช่วง 1 – 2 วันหลังฉีด
  4. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน เพื่อให้ฟิลเลอร์ซึ่งเป็นสารอุ้มน้ำสามารถทำงานได้ดี และได้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนานมากขึ้น
  5. งดทานยาหรือวิตามินที่อาจทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน วิตามิน E ใบแปะก๊วย โสม ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ที่ไหนดี?

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ที่ไหนดี?

ในการเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกในการฉีดฟิลเลอร์นั้น เราควรจะเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน และดูแลโดยแพทย์มากฝีมือที่มีประสบการณ์ยาวนาน พร้อมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองคุณภาพจาก อย. ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นไปตามที่คาดหวัง และมีผลข้างเคียงที่น้อย ไม่เป็นอันตราย

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ที่ Amarante Clinic

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ที่ Amarante Clinic
  • ที่ Amarante Clinic คุณจะได้พบกับการดูแลสุดพิเศษโดยทีมแพทย์มากฝีมือ นำโดยคุณหมอต้น ‘นพ. สฤษดิ์ ตันติอภิชาต’ AMI Faculty Thailand ที่มีประสบการณ์ในวงการความงามมาอย่างยาวนาน
  • ที่ Amarante Clinic เราคือคลินิกชั้นนำที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ที่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความไว้วางใจและประสบการณ์ที่มีในวงการความงาม
  • ที่ Amarante Clinic เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองคุณภาพจาก อย. ตรวจสอบได้ทุกกล่อง
  • ที่ Amarante Clinic คุณหมอของเราใส่ใจและพิถีพิถันทุกขั้นตอน วิเคราะห์ใบหน้าอย่างละเอียด เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูดีในทุกมิติ และยังคงความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละคนเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ฉีดจนเยอะเกินไป ทำให้ใบหน้าออกมาดูเป็นธรรมชาติ
  • ที่ Amarante Clinic ใช้เทคนิคเฉพาะพิเศษในการฉีดฟิลเลอร์อย่าง A³ Lifting ซึ่งเน้นในเรื่องของการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้า ซึ่งเน้นความละมุนเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเยอะหรือดูน้อยจนเกินไป พร้อมยกกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ลงแบบเป็นธรรมชาติ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ กับ Amarante Clinic

รวมรีวิวฟิลเลอร์ โดย คุณหมอต้น ‘นพ. สฤษดิ์ ตันติอภิชาต’ และทีมแพทย์มากฝีมือจาก Amarante Clinic ที่ได้รับความไว้วางใจมากมายจากดารา และเซเลบบริตี้ชั้นนำในประเทศไทย

สำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ที่ Amarante Clinic

ทาง Amarante Clinic เข้าใจทุกความต้องการด้านความงาม และพร้อมนำเสนอทางออกใหม่สำหรับคืนความอ่อนเยาว์ ปรับรูปหน้าให้สวยงามสมส่วนในแบบที่เป็นธรรมชาติ ด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ที่จะมอบประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพ เลือกใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์เฉพาะ ‘A³ Lifting’ มอบผลลัพธ์ความงามในแบบที่เป็นคุณ ดูแลโดยทีมแพทย์มากฝีมือที่มีประสบการณ์ยาวนาน เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ และไม่เป็นอันตราย ให้ Amarante Clinic ดูแลเพื่อความงามในแบบที่เป็นตัวคุณ หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลหรือดูรีวิวเพิ่มเติมได้ภายในเว็บไซต์ หรือปรึกษาปัญหาเบื้องต้นได้ตามช่องทางด้านล่างนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ขอบคุณคุณลูกค้าทุกท่านที่สนใจโปรโมชั่นดีๆ ของ Amarante Clinic นะคะ

🚩 อย่าลืมแอดไลน์ @amarante.official เพื่อที่จะไม่พลาดโปรโมชั่นสุดพิเศษนะคะ
😄 หรือสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย
✅ Line คลิก > @amarante.official
✅ Inbox Facebook คลิก > @amaranteclinic
✅ Instagram คลิก > amarante_clinic
📍 สาขา อารีย์ : อาคารบ้านยสวดี (BTS อารีย์ ทางออกที่ 3) 
📞 080-393-6669
📍 สาขา บางนา : For You Park
📞 080-556-5294
📍 ทั้ง 2 สาขา มีที่จอดรถ สะดวกสบาย
🕘 เปิดให้บริการทุกวัน : 11.00-20.00 น.

ช่องทางติดต่อ - สาขาอารีย์

ช่องทางติดต่อ - สาขาบางนา