EMFACE เครื่องยกกระชับ เพื่อผิวที่เฟิร์มกระชับขึ้นอย่างชัดเจน เพราะเรื่องของใบหน้าเป็นเรื่องที่คนให้ความสำคัญกันอย่างมาก เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับความมั่นใจ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอายุที่เพิ่มมากขึ้นหรือปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ล้วนส่งผลต่อสุขภาพผิวหน้าของเรา
ซึ่งในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีการพัฒนาเพื่อจะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด และการทำโปรแกรม EMFACE ถือเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าของนวัตกรรมเครื่องยกกระชับกล้ามเนื้อที่จะสามารถช่วยชะลอวัยให้ดูอ่อนเยาว์ได้ด้วยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและมีความปลอดภัย
โปรแกรม EMFACE คืออะไร
โปรแกรม EMFACE คือ การทำหัตถการเสริมความงามด้วยนวัตกรรมเครื่องยกกระชับกล้ามเนื้อบนใบหน้า เพื่อให้ผิวพรรณเต่งตึงกระชับที่ได้ผลในระยะยาว แถมยังช่วยลดริ้วรอยและช่วยสลายไขมันอีกด้วย ซึ่งเป็นเครื่องที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกและได้รับการรับรองในเรื่องของประสิทธิภาพและความปลอดภัยจาก US FDA และทั่วโลก นอกจากนี้ยังเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี HIFES Monopolar RF และ Synchronized RF เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
โปรแกรม EMFACE สามารถทำจุดไหนได้บ้าง
การทำโปรแกรม EMFACE สามารถแก้ไขปัญหาใบหน้าได้หลายจุด ได้แก่
-
- สามารถแก้ไขปัญหาบริเวณทั่วใบหน้า
- สามารถแก้ไขปัญหาบริเวณหน้าผาก
- สามารถแก้ไขปัญหาบริเวณแก้มทั้ง 2 ข้าง
- สามารถแก้ไขปัญหาบริเวณกรอบหน้า (Jawline) บริเวณส่วนล่างของใบหน้า
- สามารถแก้ไขปัญหาบริเวณคิ้ว (ยกคิ้ว)
โปรแกรม EMFACE มีหลักการทำงานอย่างไร?
การทำโปรแกรม EMFACE จะเป็นการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความเข้มสูงลงลึกสู่ชั้นกล้ามเนื้อของเรา เพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้าและสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใหม่ใต้ผิวหนัง
เพื่อให้ผิวหนังมีความแข็งแรง ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ และกล้ามเนื้อสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนังได้หลายชั้น ได้แก่
-
- ชั้น Skin Layer (Epidermis and dermis)
- ชั้น Superfacial Fat (Subcutaneous)
- ชั้น SMAS
- ชั้น Muscle
นอกจากจะแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนังแล้ว ยังสามารถเข้าไปกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ Zygomaticus Major, Zygomaticus Minor, และ Risorius ซึ่งถือว่าเป็นกล้ามเนื้อที่เป็นส่วนสำคัญในกระบวนการการยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้านั่นเอง
โปรแกรม EMFACE เหมาะกับใคร
การทำโปรแกรม EMFACE เป็นการแก้ไขปัญหาใบหน้าที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยปกติแล้วคนที่มีอายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไปและมีปัญหาดังต่อไปนี้สามารถทำได้
คนที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย
-
- ต้องการยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าให้เฟิร์มกระชับ
คนที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า
-
- ต้องการลดเลือนริ้วรอยแบบเห็นผลอย่างชัดเจน
คนที่ทำศัลยกรรมผ่าตัดโครงหน้ามา
-
- ต้องการฟื้นฟูผิวชั้นกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
คนที่ไม่อยากพักฟื้น
-
- ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ใช้เข็มและไม่รู้สึกเจ็บ
แม้ว่าการทำโปรแกรม EMFACE จะเป็นนวัตกรรมที่มีความทันสมัยและมีความปลอดภัย แต่ก็จะมีเงื่อนไขในการรักษาเล็กน้อย ซึ่งจะไม่เหมาะกับคนที่มีเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง คนที่ฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ คนที่มีปัญหาสิวอักเสบ หรือคนที่กำลังตั้งครรภ์และอยู่ในช่วงให้นมบุตร
เพราะเป็นการใช้เทคโนโลยีที่มีคลื่นกระแสไฟฟ้าความถี่ RF และ HIFES ที่อาจส่งผลต่อบุตรในครรภ์ และหากว่าใครที่กังวลว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ ก็สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนทำได้
โปรแกรม EMFACE ปลอดภัยหรือไม่
โปรแกรม EMFACE เป็นการรักษาโดยใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ด้รับการยอมรับจาก US FDA และทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงถือว่าเป็นการทำหัตถการเสริมความงามที่มีความปลอดภัยสูงและไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นการยกกระชับใบหน้าที่ไม่ต้องใช้เข็ม จึงไม่รู้สึกเจ็บ
ขั้นตอนการทำโปรแกรม EMFACE
ก่อนที่จะทำโปรแกรม EMFACE จะต้องมีการปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อให้แพทย์ทำการวิเคราะห์และประเมินปัญหาผิว ว่าควรรักษาบริเวณไหนบ้าง เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และหากมีการประเมินและวางแผนการรักษาเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่กระบวนการทำโปรแกรม EMFACE ดังนี้
-
- แพทย์หรือผู้ช่วยจะทำความสะอาดผิวหน้า ซึ่งหากมีการแต่งหน้าก็จะต้องลบให้เรียบร้อยก่อน
- แพทย์ทำการวางแผ่นแปะ EMFACE บนใบหน้าในจุดต่าง ๆ โดยจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- หลังรักษาจะให้ผู้ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าอีกครั้ง และลงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วใบหน้า
วิธีดูแลหลังทำโปรแกรม EMFACE
หลังจากการทำโปรแกรม EMFACE อาจจะมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น ได้แก่ อาการปวดกล้ามเนื้อหรือมีรอยแดงเล็กน้อย แต่จะสามารถหายได้เองภายใน 1 วัน และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าหรือทาครีมบำรุงผิวได้ในทันที
ข้อดีของการทำโปรแกรม EMFACE
-
- เป็นการทำหัตถการเสริมความงามที่มีความปลอดภัย ไม่ใช้ยาชา ไม่รู้สึกเจ็บ และไม่ต้องพักฟื้น
- เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรก เพราะสามารถยกกระชับใบหน้าได้ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ
- เพิ่มความหนาแน่นของชั้นกล้ามเนื้อทุกชั้น
- ฟื้นฟูกล้ามเนื้อและผิวหน้าไปพร้อม ๆ กัน ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
- ใบหน้าได้สัดส่วน ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ผิวหน้าโดยรวมดูสุขภาพดี
โปรแกรม EMFACE ราคาเท่าไหร่
โดยปกติแล้วในการทำ EMFACE แต่ละครั้งนั้นจะมีราคาอยู่ที่ xx,xxx – xx,xxx ต่อการทำหนึ่งครั้ง
โปรแกรม EMFACE รีวิวบน Pantip ว่ายังไงบ้าง?
ทำโปรแกรม EMFACE ที่ไหนดี
ในการที่เราจะตัดสินใจเลือกคลินิกในการทำโปรแกรม EMFACE สิ่งหนึ่งที่เราต้องคำนึงอยู่เสมอก็คือประสบการณ์ของคลินิกและแพทย์ผู้ชำนาญการว่ามีประสบการณ์ในการดูแลคนไข้มามากน้อยเพียงใดแล้ว เราควรเลือกคลินิกเสริมความงามที่มีประสบการณ์ มีความน่าเชื่อถือและได้รับการรับรองมาตรฐานคลินิก รวมไปถึงการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ EMFACE อย่างละเอียดถี่ถ้วนว่ามีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง และดูรีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้บริการ
ข้อดีของการทำโปรแกรม EMFACE ที่ Amanrante Clinic ดีอย่างไร
Amanrante Clinic ได้รับการยอมรับจากผู้เข้ารับบริการจริงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดารา นักแสดง เซเลบ หรือบุคคลทั่วไปที่ได้รับการรักษาจริง ซึ่งสามารถรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยได้ด้วยการรักษาโดยทีมแพทย์มากประสบการณ์
นำทีมโดยคุณหมอต้น นพ.สฤษดิ์ ตันติอภิชาต ผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านความงามมากกว่า 18 ปี และได้รับเกียรติเรียนเชิญเป็น Speaker ของ EMFACE ประจำประเทศไทย และทางคลินิกยังได้รับการโปรโมทจากบริษัท BTL เป็น EMFACE 3 เครื่องแรกในประเทศไทยอีกด้วย
รีวิวการทำ EMFACE กับคลินิก Amarante Clinic







คำถามที่พบได้บ่อย (FAQ)
ในการทำโปรแกรม EMFACE จะเริ่มรู้สึกถึงการยกกระชับทันทีในครั้งแรก และหากต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน ควรจะทำ 4 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อได้รับการกระตุ้นอย่างเต็มที่ และควรจะทำเป็นประจำทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี
อย่างที่ได้บอกไปว่าการทำโปรแกรม EMFACE จะไม่มีการใช้เข็มและไม่รู้สึกเจ็บ แต่ในขณะที่ทำจะรู้สึกอุ่น ๆ ในบริเวณที่ทำ และจะรู้สึกถึงความตึงเหมือนโดนดึงหน้า รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน และการกระตุกของกล้ามเนื้อบนใบหน้าเท่านั้น
ในการทำโปรแกรม EMFACE ควรจะทำ 4 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และหลังจากทำ 4 ครั้งแล้ว ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 16 เดือน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองด้วย โดยจะสามารถทำใหม่ได้ทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้มีความต่อเนื่องนั่นเอง
สำหรับใครที่ต้องการทำโปรแกรม EMFACE ร่วมกับโปรแกรมฟิลเลอร์ ก็สามารถทำได้ในวันเดียวเลย โดยจะเริ่มจากการทำโปรแกรม EMFACE ก่อน จากนั้นจึงจะทำโปรแกรมฟิลเลอร์ในจุดที่ต้องการ แต่หากใครที่ทำโปรแกรมฟิลเลอร์มาก่อนแล้ว จะต้องเว้นระยะห่างประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วค่อยทำโปรแกรม EMFACE เพื่อรอให้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่และรอยฟกช้ำจากการฉีดหายไปก่อน
ทั้งสองเป็นนวัตกรรมยกกระชับหน้าเหมือนกัน โดยที่โปรแกรม Ulthera จะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ชนิดเจาะจงเปลี่ยนเป็นความร้อนจุดเล็ก ๆ ลงลึกไปยังใต้ผิวระดับกล้ามเนื้อชั้น SMAS เพื่อช่วยยกกระชับผิว แต่โปรแกรม EMFACE จะสามารถลงลึกไปถึงชั้นกล้ามเนื้อที่อยู่ลึกกว่าชั้น SMAS ได้นั่นเอง
แน่นอนว่าควรจะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เนื่องจาการวางตำแหน่งแผ่นแปะ EMFACE บนใบหน้าในจุดต่าง ๆ จะต้องตำแหน่งให้ถูกต้องและสัมพันธ์กับการทำงานของกล้ามเนื้อ Zygomaticus Major, Zygomaticus Minor, และ Risorius จึงต้องอาศัยความแม่นยำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
บทสรุป
การทำโปรแกรม EMFACE เป็นการแก้ไขปัญหาผิวและใบหน้าที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยอย่างมาก ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อในส่วนที่มีความสำคัญในกระบวนการการยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า เพื่อให้ใบหน้าเฟิร์มกระชับ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยที่อาจเกิดจากอายุหรือปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ และสามารถลดเลือนริ้วรอยได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ความมั่นใจกลับมาได้อีกด้วย ซึ่งหากว่าใครที่สนใจและต้องการทำโปรแกรม EMFACE จะต้องศึกษาข้อมูล รายละเอียด ทั้งที่เกี่ยวกับการทำโปรแกรม EMFACE และคลินิกเสริมความงามให้ดีเสียก่อน