แม้ปัญหาสิวจะจบไป แต่สิ่งที่คงทิ้งไว้บนใบหน้าคงไม่พ้นเรื่อง หลุมสิว ที่เป็นผลข้างเคียงจากปัญหาสิว แม้จะพยายามรักษาสิวอย่างดีแล้ว แต่ด้วยพฤติกรรมบางอย่างทำให้พัฒนากลายเป็นหลุมสิวอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้ ดังนั้นจึงไม่สายที่จะเริ่มรักษาหลุมสิวตั้งแต่วันนี้ เพราะยิ่งรีบรักษาให้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยฟื้นฟูผิวได้มากขึ้นเท่านั้น
หลุมสิว คืออะไร
หลุมสิว คือ รอยแผลเป็นจากสิวอักเสบ ส่วนมากหลุมสิวที่เกิดขึ้นจะมาจากการรักษาสิวที่ไม่ถูกวิธี มีลักษณะเป็นรอยบุ๋มลงไปคล้ายหลุม ทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนเสมอกัน ซึ่งเมื่อผิวหนังมีสิวอักเสบ คอลลาเจนใต้ชั้นผิวบริเวณนั้นจะถูกทำลาย ร่างกายจึงเกิดกระบวนการสมานแผลและสร้างพังผืดที่ดึงรั้งผิวให้ยุบลง จึงกลายเป็นหลุมสิว
หลุมสิว เกิดจากอะไร
หลุมสิว เกิดจากกระบวนการรักษาผิวจากปัญหาสิวอักเสบไม่สมบูรณ์ อาจเป็นเพราะการกดหรือบีบสิวก่อนหน้านี้จนทำให้เกิดบาดเจ็บในชั้นผิวที่ลึกลงไป คอลลาเจนและเนื้อเยื่อที่สร้างขึ้นจึงไม่เพียงพอกับรอยแผลเป็น จึงทำให้การสมานแผลดังกล่าวไม่สมบูรณ์ ทำให้เห็นเป็นรอยบุ๋มในผิว ผิวไม่เรียบเนียนเท่ากัน และเป็นหลุมลึกบนใบหน้า
หลุมสิว มีกี่แบบ
หลุมสิวทั่วไป (Rolling scar)
หลุมสิว Rolling scar เป็นหลุมสิวตื้น ปากกว้างมากกว่า 4 – 5 มิลลิเมตร บริเวณส่วนบนของผิวเพียงเล็กน้อย เป็นแอ่งเว้าลงไปไม่ลึกมาก มีความรุนแรงน้อยและทำการรักษาได้ง่ายกว่าระดับอื่น มักจะเกิดจากการแกะเกาสิว จัดเป็นหลุมสิวระดับไม่รุนแรง
หลุมสิวแบบบ่อ (Box scar)
หลุมสิว Box scar จะมีลักษณะเป็นบ่อ ปากแผลกว้าง 3 – 5 มิลลิเมตร และเห็นขอบหลุมสิวชัดเจน มักพบพังผืด (Fibrosis) เกาะในชั้นหนังแท้ (Dermis) แต่มีความตื้นไม่ได้ลึกไปจนถึงชั้นหนังแท้ ซึ่งสาเหตุของ Box Scar นอกจากจะมาจากสิวแล้ว ยังมาจากอีสุกอีใสด้วย
หลุมสิวจิกปากแคบ (Ice pick scar)
หลุมสิว Ice pick scar เป็นหลุมลึก ลักษณะคล้ายกรวยแหลม ปากแผลแคบ ไม่เกิน 2 มิลลิเมตร รักษาได้ยาก เพราะแนวหลุมเป็นไปในทางลึก ในบางรายหลุมสิวอาจรุนแรงลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้ ต้องใช้เวลานานในการรักษานานกว่าจะฟื้นฟูกลับมาตื้นขึ้นได้ ถือว่าเป็นหลุมสิวที่มีความรุนแรงและรักษาได้ยากมากที่สุด
รักษาหลุมสิวอย่างไรให้หาย
การรักษาหลุมสิว ไม่สามารถทำให้หลุมสิวหายขาด แต่สามารถรักษาให้ตื้นขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับประเภทของหลุมสิว กับวิธีในการรักษาที่แตกต่างกันออกไป โดยวิธีการรักษามีดังต่อไปนี้
เลเซอร์หลุมสิว : เป็นการยิงเลเซอร์ไปบนชั้นผิว จะเข้าไปทำการลอกชั้นผิวหนังที่เสียออก และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวและผลิตเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น
การทำ Subcision : เป็นการใช้เข็มชนิดพิเศษเพื่อเลาะ/ตัดพังผืดที่ยึดผิวด้านบนจนเกิดเป็นหลุมสิวให้ขาดออกจากหนังที่ยึดอยู่ด้านล่าง และยังช่วยสร้างคอลลาเจนทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว : เป็นการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เข้าไปเพื่อเติมร่องหลุมสิงในทันทีเพื่อทดแทน ไม่จำเป็นต้องรอให้ร่างกายสร้างเนื้อขึ้น จะช่วยเติมหลุมสิวให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
การใช้กรดลอกผิว (Chemical Peeling) : โดยทั่วไปจะใช้กรด TCA เป็นการใช้กรดช่วยลอกผิวหนังชั้นนอกออก ให้ผิวชั้นนอกที่มีหลุมค่อย ๆ หลุดลอกเพื่อให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่
การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว : วิธีนี้จะอ่อนโยนกว่าการใช้กรดลอกผิว ด้วยการใช้ยาในกลุ่มกรดวิตามินเอ, เรตินอล, AHA นำไปแต้มที่หลุมสิว ใช้ระยะเวลานานกว่าแต่จะอ่อนโยนกับผิวได้มากกว่า
การผ่าตัด (Excision) : เป็นการตัดส่วนที่เป็นแผลเป็นหรือหลุมสิวออก และเย็บผิวให้กลับมาติดเข้าหากัน ใช้ในกรณีที่รักษาด้วยวิธีอื่น ๆ แล้วไม่ค่อยเห็นผล หลุมสิวมีความรุนแรงมาก จะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้
รักษาหลุมสิวที่ Amarante Clinic
สำหรับการรักษาหลุมสิวที่ Amarante Clinic จะมีการนำ Pico Laser มาใช้ในการเลเซอร์หลุมสิว โดยใช้รุ่นตัวดังอย่าง PicoSure และ Picosure Pro เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่รักษาปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม รวมถึงการรักษาหลุมสิวด้วย โดย Pico Laser จะทำงานโดยการปล่อยเลเซอร์ความเร็วระดับ Picosecond (1 ต่อ ล้านล้านวินาที) ลงเข้าสู่ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น ผิวดูเรียบเนียน และช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใส หลังทำไม่เป็นสะเก็ด เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิว
การป้องกันการเกิดหลุมสิว เริ่มต้นด้วยการป้องกันไม่ให้ใบหน้าเป็นสิวก่อน โดยมีวิธีการดูแลใบหน้าตัวเอง ดังต่อไปนี้
- ดูแลผิวหน้าให้สะอาด : การล้างหน้าให้สะอาดเป็นวินัยจะช่วยลดโอกาสการเกิดสิว แม้จะไม่ได้แต่งหน้าหรือออกจากบ้าน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า : ไม่แคะ แกะ บีบ เกา จับใบหน้าบ่อย ๆ มือของเราอาจมีเชื้อโรคที่เป็นบ่อเกิดของสิวมากมาย รวมไปถึงการเสียดสีระหว่างผิวอาจทำให้มีโอกาสสิวขึ้นได้เช่นกัน
- ใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิว : ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวได้
- หากเป็นสิว ควรรักษาให้เร็วที่สุด : สามารถใช้ยาทารักษาสิวเบื้องต้น ไม่ควรกดสิว หรือบีบสิว
- หลังสิวหาย ห้ามแกะสะเก็ดแผล : การรบกวนสะเก็ดแผลอาจทำให้แผลสมานตัวช้าลง เกิดเป็นหลุมสิวในอนาคตได้
FAQ เกี่ยวกับหลุมสิว
สำหรับการทำ Pico Laser รักษาหลุมสิว จำนวนครั้งที่แนะนำจะอยู่ที่ 6 – 12 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคล และการพิจารณาของแพทย์ด้วย
หลุมสิว ไม่สามารถรักษาให้หายถาวรได้ แต่ด้วยเทคโนโลยีด้านความงามที่ก้าวหน้าขึ้น จึงสามารถทำให้หลุมสิวเรียบเนียนเหมือนกับผิวปกติได้มากถึง 80% ดังนั้นทางที่ดีควรดูแลรักษาหลุมสิวอย่างต่อเนื่องและปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
ถ้าหากไม่มั่นใจว่าปัญหาหลุมสิวเป็นอย่างไร แนะนำให้เข้าปรึกษากับแพทย์ เพื่อให้แพทย์ตรวจดูว่าตัวเราเป็นหลุมสิวประเภทใด และรับคำแนะนำการรักษาที่เหมาะสมกับหลุมสิวประเภทนั้น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
สรุป
หลุมสิว เป็นปัญหาผิวหน้าที่เกิดขึ้นจากสิวอักเสบ หรือการรักษาสิวที่ไม่ถูกต้อง เกิดบาดแผลและร่างกายรักษาตัวได้ไม่เต็มที่จนเกิดรอยบุ๋มลงไปเป็นหลุมสิว เป็นแล้วรักษาให้หายขาดไม่ได้ ซึ่งสามารถฟื้นฟูผิวให้กลับเรียบเนียนขึ้นกว่าเดิมได้ แต่ทางที่ดีควรป้องกันการเกิดสิว เพื่อไม่ให้เกิดหลุมสิวขึ้นอีก
สำหรับผู้ที่สนใจมาใช้บริการรักษาหลุมสิวที่ Amarante Clinic
ถ้าหากท่านใดต้องการรักษาหลุมสิว ที่ Amarante Clinic พร้อมดูแลให้บริการทุกท่านด้วยความจริงใจ และเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เราดูแลอย่างดีทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเข้ารับการปรึกษา พูดคุยถึงปัญหาหลุมสิว และแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับผู้เข้ารับบริการในแต่ละท่าน
