เลือกอ่านเนื้อหา
ใครที่กำลังสงสัยว่าการทำโปรแกรมฟิลเลอร์นั้นจะสามารถแก้ไขปัญหาในบริเวณ Midface ได้หรือไม่? แล้ว Midface ครอบคลุมบริเวณไหนของใบหน้าบ้าง? บอกได้เลยว่าวันนี้จะสามารถไขข้อสงสัยเหล่านี้ให้กระจ่างได้อย่างแน่นอน พร้อมทั้งบอกกต่อวิธีการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด และปลอดภัย
Midface คืออะไร
โดยปกติแล้วใบหน้าของเราจะสามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วน ได้แก่ Upper Face, Midface และ Lower Face โดยช่วงของ Midface นั้นจะเป็นบริเวณส่วนกลางของใบหน้า ตั้งแต่บใต้ตาจนถึงเหนือริมฝีปาก หรือที่เรียกว่าหน้าแก้มหรือพวงแก้มนั่นเอง ซึ่งการแก้ไขปัญหาในบริเวณ Midface สามารถทำได้หลายวิธี แต่ในวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ 2 หัตถการความงามที่จะช่วยแก้ปัญหา Midface ได้แก่
- โปรแกรมฟิลเลอร์ Midface
- โปรแกรมฟิลเลอร์แก้มส้ม
โปรแกรมฟิลเลอร์ Midface
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Midface จะเป็นการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เข้าไปในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง เพื่อทำการปรับรูปหน้าให้ยกกระชับมากยิ่งขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์ Midface เหมาะกับใคร
ในการทำโปรแกรมฟิลเลอร์ Midface เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหลากหลายรูปแบบ ได้แก่
- แก้มแบน แก้มตอบ แก้มยุบ
- โหนกแก้มยุบ
- มีร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก
- ผิวหน้าหย่อนคล้อย
แถมยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มมิติให้กับใบหน้า ให้มีความเปล่งปลั่ง อิ่มเอิบมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือใช้เวลาพักฟื้นนานๆ เพราะเป็นหัตถการความงามที่เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว หรือผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าเพื่อเสริมโหงวเฮ้งก็ทำได้เช่นเดียวกัน
โปรแกรมฟิลเลอร์ Midface ฉีดจุดไหนได้บ้าง
การทำโปรแกรมฟิลเลอร์ Midface จำเป็นจะต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน ว่าปัญหาบนใบหน้าที่กำลังจะแก้ไขนั้นจะต้องฉีดที่จุดไหนบ้าง เช่น หากเป็นปัญหาการยุบตัวของกระดูก ไขมัน เนื้อเยื่อ และเส้นเอ็นบนใบหน้า จะมีความสัมพันธ์กันทุกตำแหน่ง และโดยปกติแล้ว โปรแกรมฟิลเลอร์นี้จะสามารถฉีดได้ถึง 8 จุด ได้แก่
- พวงแก้ม
- โหนกแก้ม
- แก้มด้านบน
- ร่องใต้ตา
- ร่องแก้ม
- ร่องมุมปาก
- ด้านข้างของคาง
- ด้านหน้าของใบหู
โปรแกรมฟิลเลอร์แก้มส้ม
ในการทำโปรแกรมฟิลเลอร์แก้มส้มนั้นจะสามารถเติมเต็มช่วง Midface โดยจะสามารถยกกระชับได้ตั้งแต่บริเวณรอบดวงตา หน้าแก้ม และขมับให้ดูเปล่งปลั่ง อิ่มเอิบมากยิ่งขึ้น และยังสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามช่วงวัย หรืออายุที่มากขึ้นได้อีกด้วย สาเหตุที่เรียกว่าแก้มส้ม เพราะหลังจากทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ในบริเวณแก้มหรือโหนกแก้มที่ฉีดจะดูคล้ายผลส้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ หรือดูเด็กลงนั่นเอง
โปรแกรมฟิลเลอร์แก้มส้ม ฉีดจุดไหนได้บ้าง
โดยปกติแล้วการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ข้างละ 1 cc. ก็เพียงพอแล้ว โดยสามารถฉีดได้ตามจุดต่างๆ ดังต่อไปนี้ และไม่จำเป็นต้องฉีดครบทุกจุด ขึ้นอยู่กับการประเมินปัญหาของของแต่ละคน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- โหนกแก้ม
- ร่องแก้ม
- พวงแก้ม
- ร่องใต้ตา
- ร่องมุมปาก
การเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
ในการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มนั้น จะมีข้อปฏิบัติที่ควรจะทำ ได้แก่
- งดดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- งดหารทำกิจกรรมที่จะส่งผลให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก หรือคาดิโอ เป็นต้น
- ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ควรจะพักผ่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงขึ้นไป
การดูแลหลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์

เนื่องจากหลังจากทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม อาจจะทำให้บริเวณที่ฉีดมีอาการบวม แดง หรือเขียวช้ำ ซึ่งหากมีอาการปวดก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ตามปกติ แต่ควรงดการแกะ เกา หรือนวดในบริเวณที่ฉีด เพราะอาจส่งผลต่อฟิลเลอร์ได้ หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงใน 2-3 คืนแรก เพื่อไม่ให้เกิดการกดทับ และควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วัน (อ่านเพิ่มเติม: เคล็ดไม่ลับ การยืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน หลังฉีดฟิลเลอร์)
ยี่ห้อฟิลเลอร์ยอดนิยม
การตรวจสอบคุณภาพและการใช้งานของฟิลเลอร์ยี่ห้อต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากใช้ฟิลเลอร์แท้ มีคุณภาพ และได้รับการรับรองมาตรฐาน อย. จะทำให้หมดปัญหาร้ายแรงที่อาจจะตามมา ซึ่งฟิลเลอร์ที่คลินิกเสริมความงามจำนวนมากเลือกใช้ ได้แก่
- Juvederm Volume สามารถอยู่ได้นาน 12-24 เดือน
- Restylane Lyft สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Defyne สามารถอยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- Neuramis Deep สามารถอยู่ได้นาน 6-8 เดือน
รีวิวการทำ Midface ที่ Amarante Clinic
บทสรุป
การเลือกทำโปรแกรมฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขปัญหาบริเวณ Midface ถือเป็นทางเลือกที่ดีและสามารถเห็นผลได้ทันที แถมยังช่วยเสริมความมั่นใจให้กับการใช้ชีวิตประจำวันได้มากยิ่งขึ้น แต่สิ่งสำคัญก่อนที่จะเลือกทำโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ใดก็ตาม คือการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของทั้งฟิลเลอร์ และคลินิกที่เลือกทำ เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมา หรือได้รับผลกระทบจากฟิลเลอร์ปลอม อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมาหศาล และเสียเวลาในการแก้ไขอีกด้วย
หากเลือกทำโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ Amarante clinic จะสามารถลดความกังวลใจต่างๆ ได้ เพราะนอกจากจะมีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญมาอย่างยาวนานแล้ว ยังได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้จริงที่เข้ามาทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เป็นจำนวนมาก โดยทางคลินิกจะเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่มีคุณภาพ และได้รับการรับรองมาตรฐาน อย. เท่านั้น