ปกภาพบทความ สิวผด คืออะไร สาเหตุเกิดจากอะไร และวิธีรักษาสิวผดให้ผิวเรียบเนียน

สิวผด คืออะไร? สาเหตุเกิดจากอะไร? และวิธีรักษาสิวผดให้ผิวเรียบเนียน

สารบัญบทความ

ในยุคที่ไม่ว่าใครต่างก็สนใจเรื่องของการดูแลความงาม และสุขภาพผิว ‘สิวผด’ คือหนึ่งในปัญหาผิวที่สร้างความรำคาญใจให้กับใครหลาย ๆ คน เพราะแม้ว่าจะดูเหมือนเป็นปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิวผดเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อความมั่นใจ และคุณภาพชีวิตได้ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อน หรือมีความชื้นสูง ในบทความนี้ จะพาทุกคนมารู้จักกับสิวผดให้มากขึ้น บอกเล่าวิธีรักษาสิวผดอย่างถูกวิธี พร้อมแนะนำเทคโนโลยีรักษาสิวล่าสุดอย่าง AviClear ที่ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านความงาม

สิวผด คืออะไร?

สิวผด คืออะไร?

สิวผด (Acne Aestivalis หรือ Acne Mechanica) จริง ๆ แล้วไม่ใช่สิวอย่างที่ใครหลาย ๆ คนเข้าใจ เพราะความจริงแล้ว สิวผด คือหนึ่งในผื่นที่เกิดจากแสงแดด รังสี UA และเกิดจากการเสียดสีของผิวหนัง กับสิ่งของต่าง ๆ เช่น หน้ากากอนามัย หมอน หรือหมวก ทำให้สิวผดมักจะเกิดในช่วงกลางวันที่มีอากาศร้อน โดยสิวผดจะมีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีแดง หรือสีขาว และบางคนอาจมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งเมื่อเราสัมผัสบริเวณสิวผด เราจะรู้สึกถึงตุ่มแข็ง ๆ เหมือนกับเม็ดทราย ทำให้ใบหน้าดูไม่เรียบเนียน มักเกิดในบริเวณผิวหน้า โดยเฉพาะในบริเวณหน้าผาก แก้ม หรือคาง

สิวผด เกิดมาจากสาเหตุอะไร?

การทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดสิวผด เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกัน และค้นหาวิธีรักษาสิวผดอย่างถูกต้อง โดยสาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดสิวผด มีดังนี้

  • ความร้อน และความชื้น

สภาพอากาศที่มีความร้อน และชื้น จะทำให้ผิวหนังของเราเกิดการขับเหงื่อออกมามากขึ้น ส่งผลให้รูขุมขนอุดตันได้ง่าย และเมื่อใบหน้าของเราถูกแสงแดด ต่อมเหงื่อของเราก็จะถูกกระตุ้นให้กลายมาเป็นสิวได้

  • ผิวหนังที่อ่อนแอ

สิวผด เกิดจากการที่เกราะปกป้องผิว (Skin Barrier) ของเราอ่อนแอลง ซึ่งเกราะป้องกันผิว มีหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว และป้องกันไม่ให้มีปัจจัยต่าง ๆ มาทำอันตรายกับผิวของเรา ทำให้เมื่อเกราะป้องกันนี้อ่อนแอลง ก็จะทำให้เกิดสิวผดได้ง่ายมากขึ้น

  • สภาพอากาศ และฝุ่น PM 2.5

การสัมผัสกับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อยู่ในอากาศ เช่น ฝุ่น PM 2.5 อาจทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผดบนใบหน้าของเราได้ 

  • การล้างหน้าที่ไม่ถูกต้อง

การล้างหน้าที่ไม่สะอาดเพียงพอ อาจทำให้สิ่งสกปรกตกค้างต่าง ๆ สะสมอยู่บนใบหน้า รวมถึงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ยังอาจทำให้ผิวเสียสมดุล จนทำให้ผิวแห้งกร้าน และเกิดสิวผดได้

  • ความเครียด และฮอร์โมน

ความเครียดส่งผลต่อการหลั่งของฮอร์โมน ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดสิวผดได้

บริเวณไหนบ้างที่มักเกิดสิวผด?

สิวผดสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายบริเวณของร่างกาย แต่จะมีจุดที่พบได้บ่อย ๆ ดังนี้

  • สิวผดที่หน้าผาก เนื่องจากเป็นบริเวณที่โดนแสงแดดเสมอ รวมถึงยังเป็นจุดที่มีต่อมไขมันมาก ทำให้เกิดสิวผดได้ง่าย
  • สิวผดที่แก้ม เนื่องจากเป็นบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อย ๆ โดยเฉพาะแสง UVA ในช่วงเวลากลางวัน เป็นจุดที่สัมผัสและเสียดสีกับหน้ากากอนามัยตลอดวัน รวมถึงยังเป็นจุดที่ได้รับสารเคมีจากเครื่องสำอางที่ใช้ทุกวันด้วย ซึ่งส่งผลให้เกิดสิวผดเห่อขึ้นมาในบริเวณแก้มได้ง่าย
  • สิวผดที่คาง เนื่องจากบริเวณคางมีการหลั่งน้ำมัน หรือซีบรัม (Sebum) ออกมาจากรูขุมขน ความมันส่วนเกินกับสิ่งสกปรกจะผสมเข้าด้วยกัน จนทำให้เกิดการอุดตัน และทำให้เกิดสิวผด หรือสิวอุดตันขึ้นมาได้

วิธีรักษาสิวผดให้ผิวกลับมาเรียบเนียน

สำหรับวิธีรักษาสิวผดให้ผิวกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง จำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง และเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยมีขั้นตอนในการรักษาสิวผด ดังนี้

  1. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่มีฟองสูตรอ่อนโยน (pH Balanced) ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และหลังออกกำลังกาย และอย่าลืมซับหน้าให้แห้งเบา ๆ ด้วยผ้าขนหนูสะอาด
  2. หลีกเลี่ยงการขัดผิวหน้า เช่น การสครับผิว เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง และสิวผดเห่อขึ้นได้
  3. ใช้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม เนื้อบางเบา ซึมซับเร็ว และไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพื่อช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
  4. ปกป้องผิวจากแสงแดด และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน แม้ในวันที่ไม่มีแดดจัด
  5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น เพราะมือของเราอาจมีสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เมื่อสัมผัสแล้วอาจทำให้สิวผดแย่ลงได้
  6. พักผ่อนอย่างเพียงพอ และจัดการกับความเครียดสม่ำเสมอ
  7. คอยสังเกต และหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดสิวผด เพราะสิวผดอาจมีปัจจัยกระตุ้นที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
  8. เข้ารับการปรึกษากับแพทย์ เพื่อค้นหาวิธีรักษาสิวผดที่เหมาะสมกับเรา เช่น การทำโปรแกรมรักษาสิวด้วย AviClear Laser

 

  • จบทุกปัญหาเรื่องสิว เพียงเข้ารับการรักษาสิวผด ด้วยเทคโนโลยี AviClear

หนึ่งในวิธีรักษาสิวผดที่เห็นผล และได้รับความนิยมมากในปัจจุบันนั่นก็คือ เทคโนโลยี AviClear ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา ว่ามีประสิทธิภาพสูงในการรักษาสิวทุกชนิด รวมไปถึงสิวผด โดยที่ไม่ทำลายผิวชั้นบน โดยหลักการทำงานของ AviClear ก็คือ การเข้าไปจัดการกับต่อมไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวผด ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้าของเรา ทำให้สภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดสิวผดจะดีขึ้นมาก และส่งผลให้สิวผดค่อย ๆ ยุบตัวลง รวมถึงยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสิวใหม่ด้วย ดังนั้น ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ AviClear ก็คือ ผิวหน้าจะค่อย ๆ เรียบเนียนมากขึ้น รูขุมขนดูกระชับ และความมันบนใบหน้าลดลง ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวผดในระยะยาว

ทำโปรแกรม AviClear ที่ Amarante Clinic

ทำโปรแกรม AviClear ที่ Amarante Clinic

เบื่อไหม กับปัญหาสิวผดที่คอยบั่นทอนความมั่นใจ ถึงเวลาปลดล็อกผิวใสไร้กังวลด้วยโปรแกรม AviClear Laser รุ่นใหม่ที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน ที่ Amarante Clinic ของเรา ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลดสิวผด แต่ยังช่วยปรับสมดุลของผิว ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน และฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง ทุกท่านจึงมั่นใจได้ว่า จะได้รับการดูแลที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด

  • ทีมแพทย์ของเรา มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสภาพผิว และกลไกในการเกิดสิว พร้อมให้คำแนะนำ และออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ
  • เลือกใช้เทคโนโลยี AviClear ที่ทันสมัย ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน และมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวอย่างครอบคลุม ช่วยลดความมันส่วนเกิน และจัดการกับปัญหาสิวได้อย่างอ่อนโยน และเห็นผล
  • Amarante Clinic ให้ความสำคัญกับความสะอาด และสุขอนามัยในทุกขั้นตอนของการรักษา เพื่อให้มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ และความเป็นส่วนตัวของผู้เข้ารับบริการ
  • เราใส่ใจในทุกความรู้สึกของผู้เข้ารับบริการ พร้อมมอบประสบการณ์ดูแลที่เหนือกว่า บรรยากาศที่ผ่อนคลาย และเป็นกันเอง เพื่อให้ประสบการณ์การรักษาเป็นที่น่าพึงพอใจ

วิธีป้องกันสิวผดไม่ให้เกิดขึ้น

สำหรับใครที่กังวล และกำลังมองหาวิธีดี ๆ ที่จะป้องกันไม่ให้สิวผดเกิดขึ้น เราขอแนะนำเคล็ดลับในการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิวผด และสิวอักเสบต่าง ๆ ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ

วิธีรักษาสิวผดด้วยวิธีการธรรมชาติ อย่างการปรับพฤติกรรม เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สิวผดลดลง โดยควรหลีกเลี่ยงอากาศร้อนจัด หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด และรังสี UVA 

  • ล้างหน้าอย่างถูกต้อง

ควรล้างหน้าอย่างถูกวิธี ไม่น้อย และไม่บ่อยจนเกินไป (วันละ 2 ครั้ง) และหลีกเลี่ยงการขัด ถู หรือนวดหน้าแรง ๆ เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และอักเสบได้ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบนบริเวณใบหน้า เพื่อไม่ให้กระตุ้นให้เกิดสิวผดมากไปกว่าเดิม

  • ดูแลความสะอาดของสิ่งของที่สัมผัสกับผิวหน้า

อย่าลืมในเรื่องของความสะอาดของสิ่งของที่มีการสัมผัสกับใบหน้าของเราด้วย ไม่ว่าจะเป็นปลอกหมอน ผ้าห่ม หรือผ้าเช็ดหน้าต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเข้าสู่ผิวหนัง ซึ่งการรักษาความสะอาดนี้ ไม่ใช่แค่ช่วยป้องกันการเกิดสิวผด แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้สิวผดกลายไปเป็นสิวอักเสบด้วย 

  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยน

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว อาจทำให้เกิดสิวผด หรือสิวอักเสบได้ ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของเรา เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรง และลดการเกิดสิวผดได้ ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่ไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย พาราเบน พาราฟิน สี น้ำหอม ฯ และควรเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่มีน้ำมัน (Oil-Free)

  • พักผ่อนอย่างเพียงพอ ระวังเรื่องความเครียด

ความเครียด เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผด เพราะส่งผลต่อฮอร์โมนโดยตรง ดังนั้น จึงควรพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียดจนเกินไป เพื่อให้ผิวมีสุขภาพดีอยู่เสมอ

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวผด

สิวผดต่างจากสิวอักเสบอย่างไร?

สิวผด และสิวอักเสบ แม้ว่าจะเป็นปัญหาผิวที่ทำให้เกิดตุ่มขึ้นเหมือนกัน แต่ก็มีลักษณะ และสาเหตุที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยสิวผด จะมาในรูปแบบของตุ่มเล็ก ๆ จำนวนมากคล้ายกับผื่นเม็ดเล็ก ๆ ที่มักจะไม่มีหัวสิว แต่อาจมีอาการคัน หรือระคายเคืองเล็กน้อย

ในขณะที่สิวอักเสบ มีหลายลักษณะมากกว่าตั้งแต่ตุ่มแดงขนาดเล็ก ตุ่มหนอง ไปจนถึงสิวหัวช้างที่เป็นก้อนใหญ่และเจ็บ โดยมักมีอาการบวม แดง และเจ็บเมื่อสัมผัส รวมทั้งยังมีอาการอักเสบอีกด้วย ดังนั้น สิวผดจึงมีลักษณะเด่นเน้นไปที่การระคายเคืองจากภายนอก แต่สิวอักเสบ จะเป็นการอักเสบภายใน ที่เกี่ยวข้องกับการอุดตัน และเชื้อแบคทีเรียนั่นเอง

สิวผด กี่วันหาย?

โดยปกติแล้ว สิวผดเป็นสิวที่เกิดได้ง่าย โดยเฉพาะในประเทศไทยของเราที่มีอากาศร้อนชื้นแทบตลอดทั้งปี ทำให้เป็นสาเหตุที่เกิดสิวผดได้ง่าย แต่ในทางกลับกัน สิวผดเองก็ถือเป็นสิวที่หายได้เร็ว สามารถหายได้ในระยะเวลาไม่เกิน 1 – 2 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง และการเลือกวิธีรักษาสิวผดที่เหมาะสม) และมีวิธีรักษาสิวผดที่ไม่ยากมาก เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม และเลือกใช้วิธีรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลก็เพียงพอ

โปรแกรม AviClear ช่วยรักษาสิวผดได้จริงไหม?

โปรแกรม AviClear ช่วยรักษาปัญหาสิวผดได้ เนื่องจากเป็นเลเซอร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน ลดการผลิตน้ำมันบนผิว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดสิวผดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทั้งนี้ ผลลัพธ์ในการรักษาสิวอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล ผู้เข้ารับบริการจึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินสภาพผิว และรับคำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม

โปรแกรม AviClear ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?

โดยทั่วไปแล้ว โปรแกรม AviClear รักษาสิว แพทย์จะแนะนำให้ทำ 3 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในการรักษาสิว แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนครั้งที่แน่นอนเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ อาจขึ้นอยู่กับสภาพผิว และปัญหาของแต่ละบุคคล ซึ่งแพทย์จะทำการประเมิน และให้คำแนะนำเป็นรายบุคคลไป

โปรแกรม AviClear เลเซอร์รักษาสิว มีผลข้างเคียงไหม?

โปรแกรม AviClear เลเซอร์รักษาสิว อาจมีผลข้างเคียงอยู่บ้างเล็กน้อยหลังทำการรักษา แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่รุนแรง และหายได้เองในเวลาไม่นาน เพราะเลเซอร์นี้จะเข้าไปควบคุมเฉพาะค่อมไขมันที่ปกป้องผิวรอบ ๆ ในบริเวณที่ทำ ดังนั้น จึงอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ผิวแดงเล็กน้อย บวม หรือรู้สึกอุ่น ๆ ในบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งอาการเหล่านี้จะดีขึ้นได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ถึง 1 – 2 วัน โดยไม่ทิ้งร่องรอยที่ต้องพักฟื้นเอาไว้

หลังทำ AviClear ต้องดูแลผิวอย่างไร?

หลังทำ AviClear สิ่งสำคัญคือการดูแลผิวอย่างอ่อนโยน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง รวมถึงยังเป็นการช่วยฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดีอีกด้วย สำหรับการดูแลผิว ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือรบกวนผิวในบริเวณที่ทำการรักษา ทาครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยน และให้ความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง เลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูง เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองในช่วง 3 – 5 วันแรกหลังการรักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และยาวนาน

ผู้ที่สนใจรักษาสิวผดด้วย AviClear Laser ที่ Amarante Clinic

ที่ Amarante Clinic เชื่อว่า ผิวสวยคือจุดเริ่มของความมั่นใจ ให้โปรแกรม AviClear เป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกผิวสวยใส ไร้สิว ให้คุณได้พร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ ที่คลินิกของเราไม่ได้ทำแค่การรักษา แต่เรายังมอบประสบการณ์การดูแลผิวที่เหนือกว่า ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างแท้จริง ‘ไม่เลี้ยงไข้ ไม่กั๊กช็อต’ คือคำมั่นสัญญาของเรา เพราะทุกการรักษาคือความใส่ใจอย่างแท้จริง ทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ของเรา พร้อมดูแลคุณตั้งแต่การประเมินสภาพผิว ออกแบบวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ผิวที่เรียบเนียน สุขภาพดีขึ้นแบบที่สัมผัสด้วยตัวเองได้ ยืนยันคุณภาพและความไว้วางใจในการให้บริการของเรา ด้วยรีวิวจากผู้เข้ารับบริการจริงมากมายที่กลับมาดูแลความงามกับเราอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเหล่าดาราเซเลบที่ให้ Amarante Clinic เป็นผู้ดูแลความงาม หากสนใจทำโปรแกรม AviClear เลเซอร์รักษาสิว หรือหัตถการอื่น ๆ สามารถสอบถามข้อมูลหรือดูรีวิวเพิ่มเติมได้ภายในเว็บไซต์ หรือปรึกษาปัญหาเบื้องต้นได้ตามช่องทางด้านล่าง

ขอบคุณคุณลูกค้าทุกท่านที่สนใจโปรโมชั่นดีๆ ของ Amarante Clinic นะคะ
🚩 อย่าลืมแอดไลน์ @amarante.official เพื่อที่จะไม่พลาดโปรโมชั่นสุดพิเศษนะคะ
😄 หรือสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย
✅ Line คลิก > @amarante.official
✅ Inbox Facebook คลิก > @amaranteclinic
✅ Instagram คลิก > amarante_clinic
📍 สาขา อารีย์ : อาคารบ้านยสวดี (BTS อารีย์ ทางออกที่ 3) 
📞 080-393-6669
📍 สาขา บางนา : For You Park
📞 080-556-5294
📍 ทั้ง 2 สาขา มีที่จอดรถ สะดวกสบาย
🕘 เปิดให้บริการทุกวัน : 11.00-20.00 น.

ช่องทางติดต่อ - สาขาอารีย์

ช่องทางติดต่อ - สาขาบางนา