ปัญหาใต้ตาคล้ำ ร่องลึก หรือถุงใต้ตา เป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าของเราดูโทรม และแก่กว่าวัย ซึ่งหลาย ๆ คนก็ได้พยายามแก้ไขด้วยการใช้สกินแคร์ หรือวิธีการต่าง ๆ ที่อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทำให้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการรักษาปัญหาใต้ตา เพราะช่วยทั้งเติมเต็มร่องลึก ปรับใบหน้าให้ดูสดใส และอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นผล
แต่อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะยังกังวลอยู่ว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม? อันตรายหรือเปล่า? และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ ในบทความนี้จะพามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด เตรียมตัวอย่างไรให้สวยเป๊ะ เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม?
หนึ่งในคำถามยอดฮิตของหลาย ๆ คนที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม? คำตอบก็คือ การฉีด Filler ใต้ตานั้น อาจจะมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในขณะที่เข็มได้สัมผัสกับผิว แต่โดยทั่วไปแล้ว จะไม่ได้รู้สึกเจ็บมาก เพราะแพทย์จะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือเลือกใช้ฟิลเลอร์คุณภาพสูงที่มีส่วนผสมของยาชา ทำให้ช่วยลดความรู้สึกเจ็บลงได้เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ เทคนิคของแพทย์ยังมีผลต่อระดับความเจ็บปวดด้วย ถ้าหากแพทย์ที่มีความเป็นมืออาชีพ และมีประสบการณ์สูง จะสามารถฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้อย่างแม่นยำ และลดความเจ็บปวดได้มากขึ้น ดังนั้น การเลือกฉีกฟิลเลอร์ใต้ตากับคลินิกที่มีประสบการณ์ และน่าเชื่อถืออย่าง Amarante Clinic จึงเป็นทางเลือกที่ฉลาด และตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างมาก
10 ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร?
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดฟิลเลอร์ซึ่งเป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณใต้ตาที่ยุบตัวลงจากการทรุดตัวของผิว ไขมัน และกระดูก ด้วยสาเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มขึ้น หรือโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคนเอง ซึ่งช่วยเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ลดความหมองคล้ำ ริ้วรอยใต้ตาดูจางลง และช่วยทำให้ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ และมีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอมากขึ้นได้
ฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?

- ช่วยแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตา ให้ดูตื้นขึ้น
- ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตา
- ช่วยเติมเต็มผิวใต้ตาที่หย่อนคล้อย ให้ดูเต็ม เต่งตึงมากขึ้น
- ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส ลดความหมองคล้ำใต้ตา
- ช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาดูจางลง หน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ช่วยให้ริ้วรอยรอบดวงตาจางลง
ข้อดีและข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้เร็ว ไม่ต้องพักฟื้น
- เป็นการรักษาที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ทำให้ไม่มีแผลเปิด
- ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย และความหย่อนคล้อยใต้ตาได้อย่างเห็นผล
- ช่วยเติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น ให้ใบหน้าสดใส ดูอ่อนเยาว์ลง
ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- อาจเกิดอาการบวมช้ำเล็กน้อยหลังทำ
- จำเป็นต้องฉีดซ้ำ เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ยาวนานขึ้น
- หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือเลือกเนื้อฟิลเลอร์ และใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นธรรมชาติ หรือเป็นก้อนได้
ฟิลเลอร์แบบไหนที่เหมาะกับใต้ตา?
สำหรับแบรนด์ฟิลเลอร์ที่แนะนำสำหรับการฉีดใต้ตาโดยเฉพาะ ควรเป็น Hyaluronic Acid (HA) ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่สามารถกระจายตัวได้ดี ดังนี้
ฟิลเลอร์เทคโนโลยี Vycross และ Hylacross ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Allergan ที่มีความพิเศษด้านความคงตัว และมีโมเลกุลที่ยืดหยุ่นสูง ช่วยยกกระชับผิวได้ดี และให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ฉีดแล้วไม่นุ่มฟูมาก เหมาะกับผิวที่ขยับบ่อย ๆ เช่น บริเวณใต้ตา
รุ่นยอดนิยมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ที่มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้ผิวดูอุ้มน้ำ สดใส
- Juvederm Volite ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด สำหรับเติมใต้ตาชั้นตื้น ที่เหมาะกับคนผิวบาง
- Juvederm Volux ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ที่มีความยืดหยุ่น และคงตัวสูง ที่สำหรับใช้ฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
- ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane
ฟิลเลอร์เทคโนโลยี NASHA และ OBT Technology ที่มีจุดเด่นคือความเป็นเม็ดละเอียดของฟิลเลอร์ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี ปรับแต่งรูปทรงได้ตามความต้องการ
รุ่นยอดนิยมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- Restylane Defyne ฟิลเลอร์เนื้อเจล ที่มีความยืดหยุ่นสูง และอุ้มน้ำได้ดี
- Restylane Vital Light ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับเคสที่ผิวบาง
- Restylane Vital ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ให้ผลลัพธ์ใต้ตาที่ดูเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ
- Restylane Perlane Lyft ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ไม่ฟู สามารถคงรูปได้ดี
- Restylane Classic ฟิลเลอร์สำหรับเก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก ที่เหมาะสำหรับคนผิวบาง
- ฟิลเลอร์ใต้ตา Belotero
ฟิลเลอร์ CPM Technology ที่มีชื่อเสียงด้านความยืดหยุ่นสูง และเกาะกันเป็นเนื้อเดียวไม่ไหลเป็นก้อน ทำให้ได้รูปทรงที่สวย เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ เหมาะมากสำหรับการทำฟิลเลอร์ใต้ตา
รุ่นยอดนิยมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- Belotero Volume เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว เหมาะฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
- Belotero Soft ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ
ใครไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?

- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ หรืออยู่ในภาวะให้นมบุตร
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต เกิดแผลฟกช้ำได้ง่าย
- ผู้ที่มีอาการแพ้สาร Hyaluronic Acid
- ผู้ที่มีถุงใต้ตาขนาดใหญ่ หรือมีความหย่อนคล้อยมาก
ฟิลเลอร์ใต้ตาต้องใช้ฟิลเลอร์กี่ CC?
สำหรับปริมาณของฟิลเลอร์ใต้ตาที่ใช้ จะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน ผนวกกับการประเมินของแพทย์ แต่โดยเฉลี่ยแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเห็นผลได้ตั้งแต่ 1 – 4 CC หรืออธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือ ยิ่งมีปัญหามาก ก็ยิ่งมีโอกาสที่ต้องใช้ปริมาณในการฉีดฟิลเลอร์มากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเห็นผลเลยไหม กี่วันเห็นผล?
หลาย ๆ คนที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจจะสงสัยว่า ฉีดฟิลเลอร์เติมใต้ตา กี่วันเห็นผล ซึ่งคำตอบก็คือ เราสามารถเห็นผลการฉีดฟิลเลอร์ได้ตั้งแต่หลังฉีดเสร็จ และเมื่อผ่านไปแล้วประมาณ 4 – 5 วัน ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ เข้าที่ และเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนมากขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ โดยแพทย์จะมีการนัดติดตามผลเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานกี่เดือน?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยทั่วไปแล้วจะคงอยู่ได้ยาวนานถึง 6 – 24 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ และยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาที่เลือกใช้ ดังนั้น ถ้าหากเราปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นอย่างดี และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น เช่น การกดนวดบริเวณดวงตาแรง ๆ หรือการขยี้ตา ก็จะช่วยรักษาฟิลเลอร์ให้คงผลลัพธ์เอาไว้ยาวนานขึ้นได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?
ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม? ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการความงามที่ต้องอาศัยความละเอียด และแม่นยำ เนื่องจากเป็นบริเวณที่บอบบาง และมีเส้นเลือดอยู่จำนวนมาก ดังนั้น ถ้าหากเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์จากคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ก็จะช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอันตรายใด ๆ จากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้
ฉีดฟิลเลอร์ใกล้ตาแล้วตาจะบอดไหม?
หลาย ๆ คนอาจจะมีคำถาม และมีความกังวลอยู่ว่า “การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม” ส่วนหนึ่งมีเหตุผลมาจากการเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วตาบอด หรือเกิดการติดเชื้อรุนแรง ซึ่งในส่วนนี้ต้องบอกว่า การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีโอกาสทำให้เกิดตาบอดได้จริง แต่เกิดขึ้นได้น้อย และยากมาก ๆ จนแทบไม่มีแล้ว โดยความเสี่ยงเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้ว จะเกิดจากความไม่ชำนาญของแพทย์ หรือการเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจากคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน
ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้ศึกษาคลินิกที่ใช้บริการ ว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน เลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรอง รวมถึงดำเนินการโดยแพทย์ที่เก่ง และมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และสร้างความมั่นใจให้กับตัวเราเอง
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีน้อยมาก จะมีเพียงอาการบวมแดง และมีรอยช้ำเล็กน้อยในบริเวณจุดที่ฉีด ซึ่งจะหายไปได้เองภายใน 2 – 3 วัน
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์ vs เติมไขมัน vs ร้อยไหมใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา การเติมไขมันใต้ตา และการร้อยไหมใต้ตา เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่เอามาใช้ในด้านเสริมความงามซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 3 วิธีนี้จะช่วยในการแก้ไข และรักษาปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น การช่วยลดความหย่อนคล้อย เติมเต็มร่องลึก เพื่อให้ผิวสวยงาม กระจ่างใสเป็นธรรมชาติ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับหัตถการเบื้องต้น
- เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่มีมาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ
- งดการรับประทานยาแอสไพริน, NSAIDs งดรับประทานวิตามิน และยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิวต่าง ๆ
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดการทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกายหนัก หรือซาวน่า
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- เริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาเบื้องต้น และเลือกชนิดของฟิลเลอร์ใต้ตาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ในขั้นตอนนี้ ถ้าหากมียาที่รับประทานอยู่ หรือมีโรคประจำตัว สามารถแจ้งแพทย์ได้เลย
- ทีมแพทย์ทำความสะอาดบริเวณใบหน้า และใต้ตาบริเวณจุดที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ทำการแปะยาชา และรอให้ยาชาออกฤทธิ์
- ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ในท่านั่ง หรือนอนเอียงในระดับที่หัวอยู่สูงกว่าหัวใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดออกมากขึ้น
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ไม่ควรสัมผัสในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และห้ามแกะ เกาในบริเวณนั้น
- ควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศเย็น โดยหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด การทำเลเซอร์ร้อน การออกกำลังกาย หรือการทำซาวน่า ฯ
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงอาหารที่เผ็ดมากจนทำให้ใบหน้าแดง อาหารหมักดอง และอาหารสดต่าง ๆ
- พยายามขยับใบหน้าน้อย ๆ ในช่วง 3 วันหลังจากฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ ให้เพียงพอกับร่างกาย เพื่อให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้ยาวนานมากขึ้น
- รับประทานยา และเข้ารับการติดตามผลตามแพทย์สั่ง
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Amarante Clinic



ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่?
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Amarante Clinic มีราคาพิเศษเพียง 14,900 บาท จากราคาปกติ 35,000 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล และโปรโมชั่นแต่ละครั้ง)


สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีรักษาที่ช่วยเติมเต็มผิวใต้ดวงตา ช่วยแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย ถุงใต้ตา ลดริ้วรอยใต้ตา และเพิ่มมิติให้ใบหน้าสวย สดใสเป็นธรรมชาติ ทั้งยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคต สามารถแก้ไขปัญหาได้แบบเฉพาะจุด และมีประสิทธิภาพสูง โดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด หรือพักฟื้น
ลูกค้าที่สนใจมาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Amarante Clinic
สำหรับท่านที่สนใจบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี และมีความน่าเชื่อถือ ที่ Amarante Clinic เรามีบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่มีประสิทธิภาพสูง เลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับรองมาตรฐาน พร้อมทีมแพทย์ที่มีความชำนาญ และมีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์มาแล้วหลายเคส ให้คำปรึกษา เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของผู้เข้ารับบริการแต่ละบุคคล ปรับใบหน้าให้สวยงามแบบเคสต่อเคส โดยไม่มีการเลี้ยงไข้ หรืออั้นช็อตยิง ยืนยันคุณภาพได้จากรีวิวผู้ใช้บริการจริง ที่กลับมาทำซ้ำเรื่อย ๆ กับคลินิกของเรา และดาราเซเลบที่ไว้วางใจในการดูแลความงามกับเรา หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือเข้ารับการปรึกษาปัญหาเบื้องต้นจากเราได้ผ่านทางช่องทางด้านล่างนี้
ขอบคุณคุณลูกค้าทุกท่านที่สนใจโปรโมชั่นดีๆ ของ Amarante Clinic นะคะ
🚩อย่าลืมแอดไลน์ http://bit.ly/3ZYmsMB เพื่อที่จะไม่พลาดโปรโมชั่นสุดพิเศษนะคะ
😄 หรือสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย
✅ Line คลิก > http://bit.ly/3ZYmsMB
✅ Inbox Facebook คลิก > http://bit.ly/3TrFOr0
✅ Instagram คลิก > http://bit.ly/3Z20siT
📍สาขาอารีย์ : อาคารบ้านยสวดี (BTS อารีย์ ทางออกที่ 3)
📞080-393-6669
📍สาขาบางนา : For You Park
📞080-556-5294
📍ทั้ง 2 สาขา มีที่จอดรถ สะดวกสบาย
🕘เปิดให้บริการทุกวัน : 11.00-20.00 น.