ปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ ริ้วรอยแห่งวัย ใต้ตาร่องลึก เป็นสิ่งที่สร้างความกังวลให้กับผู้หญิงไม่น้อย หลายคนได้เลือกใช้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อคืนความอ่อนเยาว์ กระชับใต้ตาให้ดูเต่งตึง สดใส เป็นธรรมชาติ
แต่บางครั้งก็เกิดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และใช้เวลาพอสมควรถึงเข้าที่ ทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวม จะอันตรายไหม เกิดจากสาเหตุอะไร และมีแนวทางอย่างไรบ้างที่ช่วยให้อาการบวมหายไปเร็ว และฟิลเลอร์เข้าที่สวยดูดี
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวม คืออะไร
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวม คืออาการข้างเคียงปกติที่พบได้หลังทำหัตถการ ซึ่งระยะเวลาที่อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงและกลับสู่สภาวะปกติ แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ ปริมาณที่ฉีด ความชำนาญของแพทย์ผู้รักษา รวมถึงการตอบสนองและการดูแลตัวเองหลังทำของผู้รับการรักษาเอง
อาการข้างเคียงปกติ ที่พบได้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ทั่วไป หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวม ผู้รับการรักษาส่วนใหญ่จะมีอาการข้างเคียงเล็กน้อยเกิดขึ้นตามปกติ เช่น
- อาการบวม แดง เจ็บ หรือมีรอยช้ำบริเวณใต้ตาที่ฉีดฟิลเลอร์ เป็นผลจากการเปิดรูเข็ม ทำให้เกิดการระคายเคืองของเนื้อเยื่อชั่วคราว
- ใต้ตาที่ฉีดฟิลเลอร์รู้สึกตึง เพราะการเพิ่มปริมาณของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง
- เกิดอาการคัน แสบ หรือเสียวบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย ในช่วง 1-2 วันแรก เป็นอาการตอบสนองตามธรรมชาติของผิวหนัง
ซึ่งอาการข้างเคียงต่าง ๆ ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด สามารถใช้ชีวิตประจำวันรวมถึงแต่งหน้าได้ตามปกติ โดยแนะนำให้เบามือ ไม่กดหรือขยี้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ และแสดงอารมณ์ทางสีหน้าอย่างนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการเกร็งหรือหดกล้ามเนื้อแรง ๆ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วัน ถึงหายและเข้าที่?
ระยะเวลาที่อาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะยุบและกลับเข้าที่ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3-7 วัน แต่บางรายที่มีผิวบอบบาง ไวต่อการอักเสบ หรือมีการฉีดฟิลเลอร์ปริมาณมาก ก็อาจใช้เวลาในการหายบวมได้นานถึง 1 สัปดาห์ แต่ ไม่ควรนานเกิน 2 สัปดาห์
ในช่วงพักฟื้น 2-3 สัปดาห์ แพทย์จะแนะนำให้รับประทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ หรือยาปฏิชีวนะร่วมด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และช่วยให้อาการข้างเคียงดีเร็วขึ้น ซึ่งหลังอาการบวมได้ยุบลงสนิทดีแล้ว ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดจะกระจายสม่ำเสมอ กลมกลืนกับกายวิภาคของบริเวณใต้ตาได้แนบเนียน เผยผิวใต้ตาที่กระชับ เรียบเนียน อ่อนเยาว์ และสดใสขึ้น
ถึงอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะไม่อันตรายอะไร แต่เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ผู้รับการรักษาก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ กรณีพบว่าอาการบวมทีท่าไม่ดีขึ้น หรือมีอาการผิดปกติอื่นร่วม เช่น มีไข้สูง ใต้ตาแดงก่ำ ปวดตุบ ๆ หรือมีคล้ายหนองไหลออกมา แนะนำให้กลับไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ วินิจฉัย และรักษาให้ถูกต้อง
สาเหตุฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม
หลายคนเริ่มกังวลว่าจะเกิดอาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมไหม ซึ่งการบวมถือเป็นอาการข้างเคียงหลังฉีดที่พบได้ปกติ ส่วนใหญ่จะเป็นการบวมชั่วคราว ไม่ส่งผลอันตราย แต่บางกรณี อาการบวมก็อาจมีความผิดปกติ และบอกถึงภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นหลังการฉีดได้ โดยสาเหตุของอาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวม มีดังนี้
1.ฉีดผิดตำแหน่ง ผิดเทคนิค หรือฉีดปริมาณมากไป
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ค่อนข้างมาก เพราะเป็นบริเวณที่มีหลอดเลือดและเส้นประสาทมหาศาล มีความละเอียดอ่อนสูง ซึ่งหากแพทย์ฉีดไม่ถูกชั้นผิว เช่นฉีดลึกเข้าไปในกล้ามเนื้อ อาจทำให้เกิดการกดทับ การระคายเคือง ส่งผลให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมได้
นอกจากนี้ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดก็สำคัญไม่แพ้กัน การฉีดที่มากเกินไป ไม่สอดคล้องกับสรีระความยืดหยุ่นของผิว ก็ส่งผลให้เกิดอาการบวมตามมาได้ แนะนำเลือกทำการรักษากับแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อลดความเสี่ยงจุดนี้ให้ได้มากที่สุด
2.เลือกใช้ชนิดฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม
ปัจจุบัน ฟิลเลอร์มีอยู่หลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติ ความยืดหยุ่น และความคงตัวต่างกันไป การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวใต้ตา เช่น ฟิลเลอร์ที่หนืดเหนียวเกินไป อุ้มน้ำสูง ดูดซับน้ำได้มาก ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการฟิลเลอร์ใต้ตาบวม หรือเป็นก้อนได้
ขณะเดียวกัน ผู้ที่แพ้ง่าย ภูมิแพ้ไว ก็ควรเลือกใช้ชนิดฟิลเลอร์ที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ อย่าง กรดไฮยาลูรอนิค เพื่อเลี่ยงการเกิดปฏิกิริยาภูมิไวเกิน ลดการระคายเคือง และลดอาการบวมที่อาจเกิดขึ้น
3.ผิวบริเวณใต้ตาบอบบาง
บริเวณรอบดวงตาโดยเฉพาะใต้ตา เป็นจุดที่บอบบาง ไวต่อการกระทบกระเทือนมากกว่าผิวบริเวณอื่น ประกอบกับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองได้ไว การฉีดฟิลเลอร์เข้าไปจึงอาจไปกระตุ้นการอักเสบ เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอาการฟิลเลอร์ใต้ตาบวม แม้จะฉีดด้วยปริมาณและตำแหน่งที่ถูกแล้วก็ตาม
ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แนะนำปรึกษาแพทย์ถึงสภาพผิวของตัวเองก่อน กรณีเป็นผิวที่บอบบางเป็นพิเศษ แพทย์อาจพิจารณาฉีดด้วยปริมาณที่น้อยลง หรือแนะนำให้งดเว้นการฉีดระยะนี้ เพื่อป้องกันการระคายเคืองของผิวหนัง
4.การอักเสบและติดเชื้อ
กรณีที่เข้ารับการรักษาจากสถานพยาบาลไม่ได้มาตรฐาน ขาดความสะอาด หรือแพทย์ที่ไม่ชำนาญ ไม่ระมัดระวังเท่าที่ควร จะทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้ โดยอาการอาจรุนแรงกว่าแค่การบวมธรรมดา
คือจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนผิดปกติ ใต้ตาแดงก่ำคล้ำ บวมเป่งเป็นผื่นนูนแข็ง มีไข้หรือหนองไหล ซึ่งเป็น ภาวะฉุกเฉิน ที่ต้องรีบพบแพทย์ รับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อและลดการอักเสบอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายลุกลามไปส่วนอื่น ๆ บนใบหน้า หรือทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เมื่อบวมไม่หายและเกิดปัญหาตามมา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวม ในระยะแรกถือเป็นเรื่องปกติค่ะ แต่ถ้าอาการบวมไม่มีทีท่าจะยุบลง แถมปรากฏอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วม เช่น ใต้ตามีลักษณะเป็นก้อนแข็งคล้ายไตแทรกอยู่ เวลายิ้มหรือขยับตาเห็นเป็นตุ่มนูนชัด อาการเหล่านี้บ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนที่ผิดปกติ โดยเฉพาะอาการ ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนแล้วไม่ยุบ หากไม่รีบแก้ไข อาจเสี่ยงเกิดผลกระทบร้ายแรงอื่น ๆ ตามมาได้
สาเหตุฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน
ทั่วไปอาการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ส่วนใหญ่เกิดจากความผิดพลาด อย่างการฉีดเข้าไปในชั้นผิวที่ไม่ถูกต้อง เช่นชั้นผิวที่ตื้นเกิน ฉีดเข้าในชั้นกล้ามเนื้อ หรือฉีดปริมาณที่มากเกินพอดี ทำให้ฟิลเลอร์เกิดการจับตัวเป็นก้อน ไม่สามารถกระจายได้ตามที่ควรเป็น
และการเลือกใช้ชนิดฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม ความหนืดเหนียวสูงไป ขาดความยืดหยุ่น ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนได้ ซึ่งนอกจากเกิดอาการบวมนานกว่าปกติแล้ว ฟิลเลอร์ก็จะยังคงค้างเป็นก้อนไม่ยุบสนิท ดูไม่เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ เวลายิ้มหรือหัวเราะจะเห็นเป็นร่องรอยชัด และความกลมกลืนของสัดส่วนใบหน้าดูผิดเพี้ยนไป
ข้อแตกต่าง การบวมจากฟิลเลอร์แท้และฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนที่เกิดจาก ฟิลเลอร์แท้และฟิลเลอร์ปลอม อาการที่แสดงจะต่างกันค่ะ โดยฟิลเลอร์แท้ส่วนใหญ่มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูรอนิค ที่มีความยืดหยุ่น นุ่มนวล เข้ากันได้ดีกับร่างกาย ถึงเกิดการจับตัวเป็นก้อนในช่วงแรก เมื่อได้รับการกระตุ้นให้กระจายตัว จะค่อย ๆ ยุบและกลืนไปกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังได้ดี ไม่ทิ้งรอยพังผืดหรือแผลเป็น
ขณะที่ฟิลเลอร์ปลอม ส่วนมากประกอบด้วยสารสังเคราะห์ที่ไม่เข้ากันกับร่างกาย เช่น ซิลิโคน หรือพาราฟิน ไม่สามารถละลายหรือสลายตัวได้เอง เมื่อเกิดการจับตัวเป็นก้อน จะไม่สามารถกลับคืนมาเป็นเนื้อเยื่อได้เหมือนเดิม ส่งผลให้ผิวเป็นปื้นแข็งและเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง อย่างการเกิดเนื้องอกใต้ผิวหนัง การอุดตันของหลอดเลือด การติดเชื้อจนเป็นฝี หรือลุกลามไปถึงการอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง กรณีเชื้อแพร่เข้าไปทางเส้นประสาท
การแก้ไขฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน
อาการฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนที่เกิดจากฟิลเลอร์แท้ หากอยู่ในช่วงแรก แพทย์จะแนะนำวิธีการนวด การประคบเย็น-ร้อนสลับ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยให้ฟิลเลอร์กลับมากระจายตัวได้ดี กรณีอาการไม่ดีขึ้น จำเป็นที่ต้องฉีดสารละลายเอนไซม์ เช่น ไฮยาลูโรนิเดส เพื่อสลายโครงสร้างฟิลเลอร์ให้เป็นโมเลกุลขนาดเล็ก จนค่อย ๆ ถูกดูดซึมออกไปจากร่างกายได้เอง
ส่วนฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนที่เกิดจากฟิลเลอร์เถื่อน การฉีดสลายด้วยไฮยารูโรนิเดสจะไม่ได้ผล เพราะสารไม่มีคุณสมบัติในการละลาย ทางเดียวคือต้องผ่าตัดนำเอาฟิลเลอร์ออก ซึ่งเป็นวิธีที่ยุ่งยาก มีความละเอียดอ่อนสูง กรณีผ่าตัดผิดพลาด อาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อ เส้นประสาท จนทำให้เกิดอาการชา เป็นอัมพาต หรือกระทั่งตาบอดได้ค่ะ
วิธีป้องกันและแก้อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เพื่อป้องกันการเกิดอาการบวม หรือทำให้การบวมหายเร็วขึ้น หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ให้ปฏิบัติตามนี้
- ดื่มน้ำ วันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้อาการบวมยุบเร็ว และฟิลเลอร์กระจายตัวเข้าที่ง่ายขึ้น
- ช่วง 1-2 คืนแรก แนะนำนอนโดยหนุนหัวสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้เลือดถ่ายเทจากบริเวณใบหน้า ช่วยลดอาการบวมแดงได้
- เลี่ยงอาหารรสจัด อาหารที่มีเกลือ น้ำตาลและไขมันสูง เพราะทำให้บวมมากขึ้น ควรเลือกรับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารประเภทต้ม นึ่ง
- งดดื่มแอลกฮอล์และสูบบุหรี่ช่วงแรก เพราะอาจไปขยายหลอดเลือด ทำให้ใต้ตาบวมและช้ำมากขึ้น
- เลี่ยงการแตะ เกา ขยี้บริเวณใต้ตา เพราะทำให้ระบบเยื่อบุอ่อนไม่เสถียร เกิดอาการอักเสบหรือติดเชื้อได้
- พักผ่อนให้เพียงพอ ผ่อนคลาย ไม่เครียดหรือเหนื่อยเกินไป
- หากบวมมากอาจใช้การประคบเย็นช่วยบรรเทาได้ แนะนำให้ขอคำปรึกษากับแพทย์ถึงตำแหน่งและวิธีประคบที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อประสิทธิภาพของฟิลเลอร์
- ขอคำแนะนำจากแพทย์ เกี่ยวกับการรับประทาน ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด หรือยาลดบวม กรณีอาการบวมแดงไม่ดีขึ้น
สังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาการบวม หากมีอาการบวมหรืออาการปวดเกินกว่าปกติ มีร่องรอยของหนอง และไข้สูง แนะนำรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อหาสาเหตุและวิธีรักษาที่เหมาะสม
สรุป
สรุปแล้ว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวม เป็นอาการข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปหลังฉีดฟิลเลอร์ ส่วนใหญ่เป็นอาการปกติที่จะค่อย ๆ ทุเลาลงได้เองใน 1-2 สัปดาห์
ซึ่งกรณีอาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมไม่ดีขึ้น หรือมีอาการผิดปกติอื่นร่วม เช่น ปวดตุบ ๆ แดงก่ำ คัน มีไข้สูง หรือบวมเป็นตุ่มนูนคล้ายมีหนอง เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น จำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาให้ถูกวิธีโดยเร็ว
🚩อย่าลืมแอดไลน์ http://bit.ly/3ZYmsMB เพื่อที่จะไม่พลาดโปรโมชั่นสุดพิเศษนะคะ
😄 หรือสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย
✅ Line คลิก > http://bit.ly/3ZYmsMB
✅ Inbox Facebook คลิก > http://bit.ly/3TrFOr0
✅ Instagram คลิก > http://bit.ly/3Z20siT
📍สาขาอารีย์ : อาคารบ้านยสวดี (BTS อารีย์ ทางออกที่ 3)
📞080-393-6669
📍สาขาบางนา : For You Park
📞080-556-5294
📍ทั้ง 2 สาขา มีที่จอดรถ สะดวกสบาย
🕘เปิดให้บริการทุกวัน : 11.00-20.00 น.