ปากมาสด้า คืออะไร ต้องใช้วิธีไหนให้ทำแล้วออกมาสวย ไม่เวอร์เกินไป

ปากมาสด้า คืออะไร ต้องใช้วิธีไหนให้ทำแล้วออกมาสวย ไม่เวอร์เกินไป

เลือกอ่านเนื้อหา

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเทรนด์มาแรงสมัยนี้ นั่นคือ ปากที่มีรูปทรงกระจับคล้ายกับสัญลักษณ์โลโก้ของรถยนต์มาสด้านั่นเอง ซึ่งก็มีคนจำนวนมากที่มาทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปาก ก็ต้องการจะทำปากรูปทรงกระจับแบบนี้กัน และในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหัตถการความงามนี้กันมากยิ่งขึ้น

ปากมาสด้าคืออะไร?

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าชื่อเรียกนี้ไม่ได้เป็นชื่อเรียกแบบสากล แต่เป็นการเปรียบเทียบในกลุ่มคนไทยด้วยกัน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งปากมาสด้าก็จะมีลักษณะเป็นทรงกระจับและมีรูปทรงคล้ายคลึงกับโลโก้ของยี่ห้อรถยนต์มาสด้า ซึ่งจะมีอีกรูปทรงหนึ่งที่มีความคล้ายคลึงกัน คือปากทรงกระจับปีกนางฟ้า แต่ปากทรงมาสด้าจะมีติ่งปากบนเป็นรูปตัวเอ็มที่ใหญ่และชัดมากกว่า

ลักษณะของปากมาสด้า

จะเห็นได้ชัดจากลักษณะของปากบนที่เป็นรูปตัวเอ็มเป็นติ่งแหลมอย่างชัดเจน มุมปากหยักและจะยกสูงขึ้น ส่วนริมฝีล่างจะมีความอวบอิ่ม และจะเป็นกระเปาะแบบสองร่อง แต่การทำปากในลักษณะนี้จะดูที่ความชอบของแต่ละคนร่วมด้วย

ใครที่เหมาะจะทำปากมาสด้า

ในการทำปากทรงมาสด้านั้นจะต้องดูความเหมาะสมร่วมด้วย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับการทำปากทรงนี้ ซึ่งลักษณะของคนที่เหมาะกับการทำปากมาสด้าก็จะมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คนที่รู้สึกว่าริมฝีปากหนา หรือห้อย หรือรู้สึกว่าริมฝีปากไม่เท่ากัน การทำปากทรงนี้ก็จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับคนที่ปากคว่ำ มุมปากตก เนื้อปากด้านในเยอะเกินไปจนปลิ้นออกมา หรือไม่มีส่วนโค้งเว้า ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะส่งผลต่อความมั่นใจเวลายิ้ม หรือพูดคุยกับคนอื่น ๆ ได้

วิธีทำปากทรงมาสด้า

ในปัจจุบันมีหัตถการความงามที่สามารถแก้รูปปากของคุณให้เป็นทรงมาสด้าได้ดั่งใจ นั่นคือ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปาก และการผ่าตัดศัลยกรรมปาก

1. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปากโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปาก

บอกได้เลยว่าเป็นวิธีการที่เหมาะสมสำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะทำแบบถาวรเลยดีหรือไม่ หรือทำมาแล้วจะเข้ากับหน้าของตัวเองหรือเปล่า การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปากจะสามารถตอบโจทย์ได้มากกว่าการผ่าตัดศัลยกรรม โดยจะมีขั้นตอน ดังนี้

  1. เริ่มแรกจะทำการฉีดยาชาที่บริเวณริมฝีปาก และรอให้ยาชาออกฤทธิ์
  2. จากนั้นจะฉีดตัวฟิลเลอร์ โดยจะเป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) บริเวณปาก
  3. แพทย์ทำการจัดแต่งรูปทรงปากตามที่ต้องการ

การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปาก มีข้อดีที่เห็นได้ชัดคือ ใช้เวลาทำไม่นาน ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น และเห็นผลได้ในทันที แต่อาจจะต้องกลับมาเติมบ่อยๆ

(อ่านเพิ่มเติม: รู้ลึกเรื่อง ฟิลเลอร์ ไขข้อสงสัย)

2. การผ่าตัดศัลยกรรมปาก

หลายคนที่ได้ลองทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปากมาแล้วรู้สึกว่าเข้ากับหน้าของตัวเอง และต้องการที่จะทำแบบถาวร ก็ควรจะผ่าตัดศัลยกรรมเลย โดยจะมีขั้นตอน ดังนี้

  1. เริ่มจากการฉีดยาชาบริเวณริมฝีปาก และรอให้ยาชาออกฤทธิ์
  2. แพทย์จะทำการตัดเนื้อปากบริเวณด้านข้างของปากทั้งด้านซ้ายและขวาออก โดยจะทำให้เป็นลักษณะโค้ง ซึ่งมุมปากจะยกขึ้นเหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลา
  3. จากนั้นจะเย็บตกแต่งตรงกลางปากให้เป็นกระจับรูปตัวเอ็ม และเหลือติ่งปากบนไว้ให้เป็นปลายแหลม และเย็บริมฝีปากด้านซ้ายและขวาให้ดูนูนขึ้น

แน่นอนว่าการผ่าตัดจะค่าใช้จ่ายที่แพงกว่า แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ยาวนาน ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนที่มีริมฝีปากหนามากกว่าคนที่มีริมฝีปากบาง เพราะวิธีการนี้จะทำให้ปากบางยิ่งขึ้นไปอีก

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนเป็นที่นิยม?

การเลือกทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปากนั้น มีสิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึง นั่นคือ ยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่นำมาฉีดจะต้องได้มาตรฐาน มีเครื่องหมาย อย. ที่บรรจุภัณฑ์อย่างชัดเจน เพราะหากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานจะมีปัญหาตามมาอีกมากมายเลยทีเดียว ซึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยม และใช้กันทั่วไป ได้แก่

  • Restylane ฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน ที่มีรุ่นแนะนำให้เลือก ได้แก่ Restylane Kysse, Restylane Volyme, Restylane Refyne และ Restylane Vital Light
  • Juvederm ฟิลเลอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีรุ่นแนะนำให้เลือก ได้แก่ Filler Juvederm Volift และ Filler Juvederm Vobella
  • Neuramis ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ที่มีรุ่นแนะนำ ได้แก่ Filler Neuramis Deep

ซึ่งการจะเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน ควรจะปรึกษาแพทย์และศึกษาคุณสมบัติของยี่ห้อนั้น ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจ เพื่อผลลัพธ์ที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปากกับ Amarante Clinic

บทสรุป

การทำโปรแกรมฟิลเลอร์ฉีดปากให้ได้ทรงมาสด้าที่สวยงาม และไม่ดูเวอร์จนเกินไป ควรจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้รูปปากที่เข้ากับหน้ามากที่สุด โดยจะต้องเลือกคลินิกเสริมความงามที่ไว้วางใจได้และน่าเชื่อถือ ซึ่งที่ Amarante Clinic มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทีมงานที่มีคุณภาพคอยดูแลและให้คำปรึกษาคุณทุกขั้นตอน

อ่านบทความเพิ่มเติม:

ช่องทางติดต่อ - สาขาอารีย์

ช่องทางติดต่อ - สาขาบางนา