หลายคนมีความกังวลใจเมื่อได้เห็นเจ้าเม็ดเล็ก ๆ สีขาวที่มักจะขึ้นบริเวณรอบดวงตา ซึ่งนี่ไม่ใช่สิวอักเสบ หรือสิวอุดตันที่เราคุ้นเคยกัน แต่เป็น “สิวหิน” ที่แม้ว่าจะไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง แต่ก็สร้างความกังวลใจ และทำให้ความมั่นใจลดลงไปได้ไม่น้อยเลย ในวันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับสิวหินให้มากขึ้น พร้อมแนะนำวิธีรับมือ และจัดการกับมันได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ผิวของคุณกลับมาเรียบเนียนสดใสอีกครั้ง
สรุปสาระสำคัญ "สิวหิน"
- สิวหิน คือเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงที่เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างผิว หรือต่อมเหงื่อใต้ผิวหนัง มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ สีขาวขุ่น ไม่มีหัว ไม่มีหนอง และไม่รู้สึกเจ็บปวด
- สาเหตุหลักของการเกิดสิวหิน คือความผิดปกติของโครงสร้างผิว ซึ่งเกิดได้ทั้งจากปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก
- ในการรักษาสิวหิน จำเป็นต้องการรักษาด้วยการใช้เทคนิคทางการแพทย์ เช่น โปรแกรม AviClear Laser เทคโนโลยีเลเซอร์รักษาสิว และห้ามบีบหรือแกะสิวหินเองเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
- ถ้าต้องการไม่ให้สิวหินเกิดซ้ำ จะต้องเน้นการทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน และหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว และไม่มีสารระคายเคือง
สิวหิน คืออะไร
สิวหิน คือเนื้องอกที่เกิดขึ้นบริเวณต่อมเหงื่อที่มีการเจริญเติบโตผิดปกติใต้ผิวหนัง จนทำให้เกิดเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ ขนาด 1 – 3 มิลลิเมตร ที่พื้นผิวเรียบเนียน ไม่มีความเจ็บปวด ไม่คัน และที่สำคัญคือ ไม่มีหัวและหนองให้บีบได้เหมือนสิวทั่วไป โดยทั่วไปแล้วสิวหินจะมีสีเดียวกับผิวหนังหรือเป็นสีขาวขุ่นไปจนถึงสีเหลืองอ่อน ๆ และมักจะขึ้นเป็นกลุ่มรอบบริเวณผิวที่บอบบาง เช่น รอบดวงตา แก้ม และหน้าผาก
ซึ่งสิวหินนั้น ถือเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผิวของเรา เพียงแต่สร้างความกังวลใจเรื่องความสวยงามให้กับเราเท่านั้น
สาเหตุไหนบ้างทำให้เกิดสิวหิน เกิดขึ้นบริเวณไหนได้บ้าง
สิวหินเกิดจากอะไร? เป็นหนึ่งในคำถามที่พบบ่อยมาก เพราะหลายคนคิดว่าจะต้องเกิดจากการอุดตันของสิ่งสกปรกเหมือนสิวทั่วไป แต่ความจริงแล้วสาเหตุของการเกิดสิวหินนั้นเกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างผิวหนัง ซึ่งสามารถแบ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดสิวหินออกมาเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 2 กลุ่ม ดังนี้
ปัจจัยภายในที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างผิว
- เกิดจากการสะสมของเคราติน และต่อมเหงื่อที่ทำงานผิดปกติ
- เกิดจากพันธุกรรม และความผิดปกติแต่กำเนิด เช่น ถ้าหากมีประวัติครอบครัวเป็นสิวหิน โอกาสที่เราจะเป็นก็จะสูงขึ้นด้วย
- เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของร่างกาย เช่น วัยรุ่น การตั้งครรภ์ หรือวัยหมดประจำเดือน อาจส่งผลกระตุ้นให้เกิดสิวหินได้
ปัจจัยภายนอกที่มาทำร้ายผิว
- เกิดจากอาการบาดเจ็บ หรือการอักเสบของผิวหนัง เช่น เคยมีแผลไฟไหม้ แผลพุพอง หรือผิวได้รับการกระตุ้นจากการขัดผิวบ่อย ๆ อาจกระตุ้นให้เกิดสิวหินได้ เนื่องจากผิวพยายามซ่อมแซมตัวเองจนเกิดความผิดปกติขึ้น
- เกิดจากการใช้ยา หรือผลิตภัณฑ์บางชนิดอย่างต่อเนื่อง เช่น ยาที่มีส่วนประกอบของสเตียรอยด์ ยาที่ส่งผลให้ท่อเหงื่อขยายตัว หรือเกิดการระคายเคืองจนกระตุ้นการเกิดสิวหิน
- เกิดจากสภาพแวดล้อมที่ได้สัมผัสในแต่ละวัน เช่น การสัมผัสกับสารเคมี หรือมลภาวะที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
จากปัจจัยเหล่านี้ ทำให้สิวหินมักจะเกิดในบริเวณที่มีผิวบอบบางเป็นหลัก เช่น บริเวณรอบดวงตา แก้ม หน้าผาก และจมูก เป็นต้น
สิวหินมีประเภทไหนบ้าง
จากที่ได้อธิบายสาเหตุของการเกิดสิวหินไปในหัวข้อที่แล้วจะเห็นได้ว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวหินมีด้วยกันหลายสาเหตุ ทำให้สิวหินมีหลายประเภท ที่ต้องจำแนกให้ถูกเพื่อให้สามารถเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะสม ซึ่งประเภทของสิวหินที่แบ่งตามสาเหตุ สามารถจำแนกได้เป็น 4 ชนิด ดังนี้
- สิวหินชนิดปฐมภูมิ (Primary Milia)
เป็นสิวหินที่พบได้บ่อย และเป็นประเภทที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยไม่เกี่ยวกับความผิดปกติของผิวหนัง โดยสิวหินประเภทนี้จะเกิดจากการที่เส้นใยเคราตินซึ่งเป็นโปรตีนของผิวหนังที่ควรจะผลัดออกไปตามธรรมชาติ กลับไปสะสมและรวมตัวอยู่ใต้ผิวหนังจนกลายเป็นถุงซีสต์สีขาวขนาดเล็กที่กลายมาเป็น สิวหิน มักพบได้บ่อยในบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก และจมูก โดยส่วนใหญ่แล้วจะหายได้เองภายใน 1 เดือน
- สิวหินชนิดบาดแผล (Traumatic Milia)
เป็นสิวหินที่เกิดจากการที่ผิวหนังได้รับความเสียหายหรือบาดเจ็บมาก่อน เช่น จากแผลไฟไหม้ แผลพุพอง หรือเกิดจากการที่ผิวเกิดการระคายเคืองจากการขัดผิวที่รุนแรงเกินไป จนกระตุ้นให้เกิดเป็นสิวหินขึ้น โดยมักจะเกิดในบริเวณตามรอยแผลที่หายแล้ว ทำให้การรักษาต้องระวังเป็นพิเศษ
- สิวหินที่เกี่ยวข้องกับโรค (Syndromic Milia)
เป็นสิวหินที่เกิดจากกลุ่มโรคทางพันธุกรรม หรือเกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิด เช่น กลุ่มความผิดปกติเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อบางชนิด ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อยนัก และในบางกรณีของกลุ่มวัยรุ่นที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งผิวหนังขั้นเริ่มต้น ที่ถ่ายทอดออกมาทางพันธุกรรม ดังนั้น ถ้าหากสงสัยว่าสิวหินของเราเกิดจากสาเหตุนี้ ควรเข้ารับการตรวจเพื่อวินิจฉัยและรักษาควบคู่กับโรคนั้น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน
- สิวหินแบนราบ (Milia en Plaque)
เป็นสิวหินที่มีลักษณะแตกต่างออกไปจากสิวหินประเภทอื่น ๆ คือไม่ได้นูนเป็นเม็ดเดี่ยว ๆ แต่จะขึ้นรวมกันเป็นปื้นขนาดใหญ่ คล้ายแผ่นราบหรือผื่นหนา ๆ ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการติดเชื้อแทรกซ้อน หรือมีการอักเสบเรื้อรังใต้ผิวหนังจนเกิดการลุกลาม มักพบในผู้ใหญ่วัยกลางคนที่มีประวัติปัญหาสุขภาพผิวหนังมาก่อน
รักษาสิวหินได้ด้วยวิธีไหนบ้าง
เนื่องจากสิวหินเป็นถุงซีสต์เคราตินหรือเนื้องอกต่อมเหงื่อที่อยู่ลึกถึงชั้นหนังแท้ การรักษาจึงต้องเป็นการทำลาย หรือนำเนื้อเยื่อนั้นออกไปอย่างแม่นยำ โดยเราขอแนะนำวิธีการรักษาสิวหินที่ได้รับความนิยม และได้ผลลัพธ์ที่ดีในปัจจุบัน ดังนี้
- รักษาสิวหิน ด้วยโปรแกรม AviClear Laser ตัวเลือกที่แม่นยำ และลดโอกาสในการเกิดแผลเป็น
การรักษาสิวหินด้วยโปรแกรมเลเซอร์ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม และมีประสิทธิภาพสูง เพราะมีความแม่นยำในการรักษาโดยที่ไม่ทำร้ายผิวหนังรอบข้าง และช่วยลดโอกาสในการเกิดรอยแผลเป็นจากสิวได้ดีกว่าวิธีอื่น ๆ โดยโปรแกรม AviClear Laser นั้น เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์รักษาสิวที่โดดเด่นในการรักษาที่ต้นกำเนิดของปัญหาโดยตรง ช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไขมันในระยะยาว ทำให้สามารถลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวหิน และสิวอื่น ๆ ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน และกระจ่างใสมากขึ้น เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่มีปัญหาผิวมันร่วมด้วย แต่ทั้งนี้ ควรปรึกษากับแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อประเมินความเหมาะสมของการใช้เลเซอร์นี้กับสิวหินโดยเฉพาะ
- รักษาสิวหิน ด้วยวิธีการกำจัดเฉพาะจุด
การกำจัดเฉพาะจุดเป็นการรักษาที่ตรงไปตรงมา และให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว โดยมีหลากหลายเทคนิคที่แพทย์เลือกใช้ ได้แก่
- การกดสิวหินโดยแพทย์ : โดยแพทย์จะใช้เข็มปลอดเชื้อจิ้มเปิดผิวบริเวณหัวสิวหินอย่างเบามือ จากนั้นจึงใช้เครื่องมือกดสิวหินที่มีเนื้อแข็งออกมา
- การจี้ด้วยไฟฟ้า : เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าความถี่สูงจี้ทำลายเนื้อเยื่อของสิวหิน ทำให้ฝ่อและหลุดออกไปเอง วิธีนี้ค่อนข้างแม่นยำ เหมาะกับสิวหินขนาดเล็ก และจำนวนน้อยถึงปานกลาง
- การผ่าตัดสิวหิน : เป็นวิธีที่เหมาะกับการรักษาสิวหินที่มีขนาดใหญ่มาก และไม่ตอบสนองต่อวิธีอื่น โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเล็กเพื่อนำก้อนสิวหินออกไป และจำเป็นต้องดูแลผิวบริเวณแผลอย่างดีเป็นพิเศษหลังทำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็น
- รักษาสิวหิน ด้วยการใช้ยาทาเฉพาะที่
เป็นการใช้ยาทาบางชนิดเพื่อเร่งการผลัดเซลล์ผิว เช่น กลุ่มยาที่มีส่วนผสมของ Isotretinoin แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสิวหินเป็นเนื้องอกที่อยู่ลึกถึงชั้นหนังแท้ การใช้ยาทาเพียงอย่างเดียวมักให้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจเท่าที่ควร นอกจากนี้ ยาเหล่านี้ยังจัดเป็นยาอันตรายที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวอย่างรุนแรงได้อีกด้วย จึงควรใช้ภายใต้การดูแลและคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
AviClear เลเซอร์รักษาสิวยอดนิยม ที่ Amarante clinic
หากคุณกำลังเจอกับปัญหาสิวต่าง ๆ ที่บั่นทอนความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือแม้แต่สิวหินเม็ดสีขาวเล็กๆ ใต้ตา ที่ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน เข้ามาปรึกษากับเราได้เลยที่ Amarante Clinic เราพร้อมที่จะนำเสนอเทคโนโลยีการรักษาสิวที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างโปรแกรม AviClear Laser เทคโนโลยีเลเซอร์รักษาสิวที่สามารถจัดการกับต้นตอของปัญหาผิวได้อย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาสิวเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับสมดุลการทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเกิดสิวหิน ทำให้ผิวบริเวณที่เกิดสิวหินดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีผิวที่สะอาด เรียบเนียน และช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงอย่างยั่งยืน
รักษาสิวหินด้วยโปรแกรม AviClear Laser กับ Amarante Clinic มีแต่ข้อดี!
- เป็นโปรแกรมรักษาสิวที่ไม่เป็นอันตราย จัดการปัญหาได้ถึงต้นตอ โดยไม่ทำร้ายผิวรอบข้าง
- ดูแลโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ยาวนาน วิเคราะห์และประเมินปัญหาอย่างละเอียด เพื่อออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับลักษณะผิวของแต่ละบุคคล
- ช่วยจัดการกับปัญหาการอุดตันของไขมันใต้ผิว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิวหิน
- เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยา พักฟื้นไม่นาน กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวหินบนใบหน้า
เนื่องจากสิวหินเกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างผิวและการบาดเจ็บ ดังนั้น การป้องกันจึงเน้นจะต้องไปที่การดูแลผิวอย่างอ่อนโยน และเสริมให้ผิวเราแข็งแรงจากภายใน
- ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าแบบอ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย เพื่อลดโอกาสการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการทำร้ายผิว โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาที่บอบบาง เช่น การสครับผิวหน้าที่แรงจนเกินไป
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า เพราะอาจกระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
- เลือกใช้ครีมบำรุงหรือเครื่องสำอางที่ไม่มีสารระคายเคือง และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- เสริมความแข็งแรงให้กับผิวชั้นลึก เช่น การกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดความผิดปกติของต่อมเหงื่อและเคราติน และทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจโปรแกรม Aviclear ที่ Amarante Clinic
ที่ Amarante Clinic มีโปรแกรมการรักษามากมายที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับปัญหาผิวพรรณอย่างแม่นยำและอ่อนโยน โดยเฉพาะกับการจัดการกับปัญหาสิวที่มาบดบังความมั่นใจของคุณ ด้วยโปรแกรม AviClear Laser เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ไม่ได้ช่วยแค่ช่วยรักษาสิวทั่วไป แต่ยังมุ่งเป้าไปที่การปรับสมดุลการทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของการเกิดสิวหิน ทำให้ผิวคุณแข็งแรงจากภายใน และลดโอกาสการเกิดซ้ำได้ในระยะยาว หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลหรือดูรีวิวเพิ่มเติมได้ภายในเว็บไซต์ หรือปรึกษาปัญหาเบื้องต้นได้ตามช่องทางด้านล่างนี้