อาการแพ้ฟิลเลอร์ เป็นอาการหลังจากทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งจะมีโอกาสเกิดได้น้อย ถ้าหากใช้ฟิลเลอร์ที่มีสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ระคายเคือง และก่อให้เกิดอาการแพ้ สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ แต่ในวันนี้เราจะพูดอันตรายของอาการแพ้ฟิลเลอร์ และใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
อาการแพ้ฟิลเลอร์ คืออะไร
อาการแพ้ฟิลเลอร์ เป็นอาการที่พบได้หลังทำการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งจะเกิดจากภาวะที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายมีโอกาสไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อสารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปภายในร่างกาย ทำให้ฟิลเลอร์เกิดปฏิกิริยาการอักเสบขึ้น ซึ่งมีโอกาสแพ้ในระยะเวลา 72 ชั่วโมงไปจนถึงระยะเวลาเป็นเดือน
อาการแพ้ฟิลเลอร์ อาการบวมหลังทำโปรแกรมฟิลเลอร์
หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าอาการบวมหลังจากฉีดนั้นถือเป็นหนึ่งในอาการแพ้ฟิลเลอร์ด้วยหรือไม่? อาการบวมเข็มสามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ เนื่องจากเข็มที่ใช้ในการฉีดนั้นไปทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังบางส่วนเสียหายขึ้นมา ผิวหนังส่วนนั้นจึงบวมตามกลไกของร่างกายเพื่อทำการซ่อมแซมเนื้อเยื่อนั่นเอง โดยปกติแล้วจะบวมประมาณ 7-14 วัน แต่มักจะเกิดอาการบวมมากที่สุดในช่วง 2-3 วันแรก ซึ่งหากเป็นอาการบวมที่ไม่เป็นอันตราย จะสามารถหายได้เอง โดยไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ และไม่จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อทำการรักษาเพิ่มเติม
ผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังทำโปรแกรมฟิลเลอร์
นอกจากอาการบวมแล้ว หลังจากทำโปรแกรมฟิลเลอร์ก็อาจจะมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ และหากมีความรุนแรงควรจะรีบพบแพทย์โดยทันที
-
- อาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หายใจลำบาก หรือรู้สึกเหนื่อยง่ายมากกว่าปกติ
- ความผิดปกติเกี่ยวกับเส้นประสาท ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง รู้สึกใบหน้าชาเป็นอัมพาต และไม่สามารถขยับได้
- ความผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา เช่น ตาแห้ง ตาบวม ปวดตา มองไม่ชัด หรืออาจรุนแรงถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้
- ฟิลเลอร์ที่ฉีดนั้นไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อบริเวณอื่น จึงทำให้รูปหน้าและโครงหน้าแปลกไป
ดูแลตัวเองอย่างไรให้หายบวมจากการทำโปรแกรมฟิลเลอร์
หากเป็นการบวมที่ไม่เป็นอันตราย จะมีวิธีดูแลตัวเองง่าย ๆ เพื่อให้อาการบวมหายได้อย่างรวดเร็ว ดังนี้
-
- ดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำ จะทำให้แผลและอาการบวมหายเร็ว เพราะน้ำมีผลต่อระบบไหลเวียนเลือดอย่างมาก
- ไม่บีบหรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะจะทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวที่เสียหายอยู่บวมกว่าเดิม
- ไม่ประคบน้ำแข็งด้วยตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการประคบที่ปลอดภัยและจะไม่ส่งผลกับการรักษา
- นอนหนุนหมอนสูง เพราะการนอนระนาบ ทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณใบหน้ามากขึ้น
- งดอาหารที่จะอาจจะไปกระตุ้นการอักเสบ เช่น ของหมัก ของดอง อาหารที่เผ็ดจัดหรือหวานจัด เป็นต้น
- งดอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบจากนม
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทุกประเภท
(อ่านเพิ่มเติม: ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ให้ผลลัพธ์อยู่นานขึ้น ดูแลอย่างไร?)
ฟิลเลอร์อักเสบจากอาการแพ้ฟิลเลอร์ คืออะไร เกิดจากอะไร
เป็นอาการติดเชื้อหลังจากทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่จะทำให้เกิดอาการอับเสบขึ้นมาบริเวณที่ฉีด ซึ่งมีหลายอาการ ทั้งอาการปวด แสบ ร้อน บวม เป็นก้อนนูน แดง หรือมีตุ่มหนองบริเวณที่ทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ได้ ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ควรเข้าพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำโดยทันที
วิธีการสังเกตฟิลเลอร์อักเสบด้วยตนเอง
-
- บริเวณที่ทำการฉีด จะรู้สึกปวด รู้สึกร้อนมากกว่าปกติ
- มีอาการบวมขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณที่ฉีด และเมื่อกดแล้วจะรู้สึกเจ็บ
- บริเวณที่ฉีด เป็นก้อนนูนออกมาจากผิว ทั้งเวลายิ้มหรือเวลาขยับกล้ามเนื้อใบหน้า
- บริเวณที่ฉีด มีลักษณะแดงหรือดำคล้ำผิดปกติ
- บริเวณที่ฉีด จะรู้สึกร้อน และรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัว
อาการแพ้ฟิลเลอร์อันตรายไหม และผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์
หลังจากทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ สามารถแบ่งออกได้ตามอาการ ดังนี้
- อาการแพ้จะเกิดรอยแดง ช้ำ บริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ โดยจะค่อย ๆ หายไปได้เองใน 1-2 สัปดาห์
- อาการบวม ผิวไม่เรียบเนียน เกิดได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น การฉีดที่ตื้นไป ชั้นผิวที่ฉีดมีความบาง และปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้มากเกินไป
- ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อน โดยฟิลเลอร์จะมีการเคลื่อนหลุดจากตำแหน่งที่ทำการฉีด มักจะเกิดการเคลื่อนในบริเวณที่การขยับกล้ามเนื้อบ่อย ๆ
- อาการแพ้ฟิลเลอร์ จะมีลักษณะเป็น ก้อน นูน รอยแดงอักเสบ
- อาการแพ้ฟิลเลอร์ขั้นรุนแรงจะมีลักษณะเป็นผื่น ลมพิษขั้นรุนแรง แม้จะเป็นอาการที่พบได้น้อย แต่หากมีอาการควรเข้าพบแพทย์ทันที
- อาการติดเชื้อหลังฉีด จะมีอาการ ปวด ร้อน บวม เป็นตุ่ม หรือมีหนองบริเวณที่ทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งอาจเกิดจากเครื่องมือที่ไม่สะอาด หรืออาจจะเกิดจากความไม่ได้มาตรฐานของคลินิก
- การฉีดผิดตำแหน่ง ซึ่งอาจจะฉีดเข้าบริเวณที่เป็นเส้นเลือดแดง จึงทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือด และเกิดสาเหตุเนื้อตายได้
- ฟิลเลอร์ไม่กระจายตัว กลายเป็นก้อนเดียว
โปรแกรมฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับใครบ้าง
การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์มีข้อดีมากมาย ในการช่วยแก้ไขปัญหาผิว แต่มีในคนบางกลุ่มที่ควรหลักเลี่ยง ดังนี้
- ผู้ที่มีการตั้งครรภ์ หรือยังอยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีอาการแพ้ หรือประวัติแพ้ยาในกลุ่ม Lidocaine
- ผู้ที่มีอาการแพ้ฟิลเลอร์ หรือสารสังเคราะห์ Hyaluronic acid
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกง่าย เลือดไหลหยุดยาก มีแผลฟกช้ำได้ง่าย
- ผู้ที่มีการใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันไวกว่าปกติ จะมีความเสี่ยงต่อการแพ้ฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีประวัติแพ้โปรตีนจากแบคทีเรียแกรมบวก
- ผู้ที่มีอาการงูสวัด หรือเป็นเริม ควรหลีกเลี่ยงการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เพราะจะทำให้อาการกำเริบหนักขึ้นได้
รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ที่ Amarante Clinic
สรุป
อาการแพ้ฟิลเลอร์ จากการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับปรุงรูปร่างหรือลดริ้วรอย โดยหลังกระบวนการฉีดมักจะผลข้างเคียงที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ถึงขั้นรุนแรงได้ จึงควรระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยและปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำก่อนตัดสินใจทำ หากมีคำถามหรือความกังวลใด ๆ สามารถติดต่อสอบถามปัญหากับเรา Amarante Clinic คลินิกเสริมความงามอับดับต้น ๆ ของประเทศไทย