โบท็อกซ์ เป็นสารชนิดหนึ่งที่นิยมฉีดกัน เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวย หน้ามีวีเชฟ
และฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอยต่างๆ เช่น รอยตีนกา รอยย่นบริเวณหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้วซึ่งสามารถทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น แต่ปัจจุบันมีกระแสข่าวออกมาก ว่าฉีดโบท็อกซ์แล้วมีอาการหนังตาตก เกิดจากสาเหตุอะไร วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันในบทความนี้ค่ะ

ซึ่งสามารถทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น แต่ปัจจุบันมีกระแสข่าวออกมาก ว่าฉีดโบท็อกซ์แล้วมีอาการหนังตาตก เกิดจากสาเหตุอะไร วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันในบทความนี้ค่ะ

โบท็อกซ์ (Botox) คืออะไร
Botox คือชื่อยี่ห้อของ botulinum toxin A เป็นแบรนด์ยี่ห้อหนึ่งจากบริษัท Allergan อเมริกา ซึ่งมีมานานเป็นเจ้าแรกๆ ของโลกคนส่วนใหญ่จึงเรียกติดปากกันมาว่าโบท็อกซ์ เปรียบเหมือนแบรนด์ผงซักฟอกที่คนมักจะเรียกผงซักฟอกทั่วไปว่า “แฟ้บ” เพราะเป็นแบรนด์แรกๆที่ เราชินและคุ้นเคยกัน โบท็อกซ์ตัวนี้ก็เช่นกันซึ่งโบท็อกซ์สกัดมาจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Clostridium Botulinum มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท โดยจะไปยับยั้งเซลล์ประสาทไม่ให้ผลิตสาร acetylcholine ซึ่งเป็นสารที่สั่งให้กล้ามเนื้อยืดและหดตัว จากคุณสมบัติที่ต่อต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ จึงนำมาใช้ในทางการแพทย์ เพื่อลดรอยย่นต่างๆ โดยทำให้ผิวหน้าบริเวณหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว และรอยตีนกาหายไปผิวหนังจะกระชับมากยิ่งขึ้น รอยเหี่ยวย่นต่างๆดูตื้นขึ้น โบท็อกซ์ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ สิ่งสำคัญอยู่ที่ประสบการณ์ของแพทย์ที่ฉีดให้ และการฉีดให้ถูกตำแหน่งในปริมาณที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน

ซึ่งโบท็อกซ์สกัดมาจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Clostridium Botulinum มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท โดยจะไปยับยั้งเซลล์ประสาทไม่ให้ผลิตสาร acetylcholine ซึ่งเป็นสารที่สั่งให้กล้ามเนื้อยืดและหดตัว จากคุณสมบัติที่ต่อต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ จึงนำมาใช้ในทางการแพทย์ เพื่อลดรอยย่นต่างๆ โดยทำให้ผิวหน้าบริเวณหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว และรอยตีนกาหายไป
ผิวหนังจะกระชับมากยิ่งขึ้น รอยเหี่ยวย่นต่างๆดูตื้นขึ้น โบท็อกซ์ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ สิ่งสำคัญอยู่ที่ประสบการณ์ของแพทย์ที่ฉีดให้ และการฉีดให้ถูกตำแหน่งในปริมาณที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน
คิ้วตกหลังจากฉีดโบท็อกซ์ เกิดจากสาเหตุอะไร
คิ้วตก หรือ หนังตาตก มีสาเหตุใกล้เคียงกัน ในส่วนของคิ้วตกเวลาเราฉีดโบท็อกซ์เข้าไปเราจะรู้สึกว่า ตาดูเล็กลง ชั้นตาเราหายไป มีอาการหนักๆบริเวณชั้นตาเหมือนคิ้วกดลงมา ทำให้ชั้นตาดูเล็กลง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้คิ้วตกอาจเกิดจากการที่เราฉีดกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากในปริมาณมากจนเกินไป กล้ามเนื้อหน้าผากเกิดการยกคิ้วขึ้น เกิดเราใช้ยาเยอะทำงานน้อยคิ้วก็จะยกไม่ขึ้นและก็โดนดึงลงมากขึ้นจากกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตา เลยทำให้คิ้วตกลงมา ทำให้ชั้นตาดูเล็กลง ชั้นตาหายไปหนังตาตกหลังจากฉีดโบท็อกซ์ อาการหนังตาตกคืออะไร เกิดการสาเหตุอะไร
หนังตาตก หลังจากฉีดโบท็อกซ์ เกิดจากการกระจายของยาเข้าไปในบริเวณกล้ามเนื้อที่ช่วยในการเปิดตา พอกล้ามเนื้อการเปิดตาทำงานน้อยลงตาของเราก็จะเปิดได้น้อยลงทำให้อ่อนแรงลง เกิดลักษณะคล้ายๆ ตาปรือ ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ฉีดโบท็อกซ์แล้วเกิดอาการหนังตาตกมาจากทั้งหมด 3 อย่างด้วยกัน1. ถ้าเราฉีดในตำแหน่งในชั้นที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดการกระจายยา โดยแพร่ไปบริเวณกล้ามเนื้อใกล้เคียงก็อาจเกิดทำให้ตาตกได้เช่นกัน ซึ่งปัญหาที่มักจะพบเจอบ่อยก็คือปัญหาช่วงบริเวณระหว่างคิ้ว หากเราฉีดยาเยอะ หรือ ดันยาแรงจนเกินไปก็อาจทำให้ตัวยากระจายมาโดนกล้ามเนื้อบริเวณที่ช่วยในการเปิดตา ซึ่งทำให้อาจเกิดการตาตกได้2. ถ้าเราฉีดในตำแหน่งในชั้นที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดการกระจายยา โดยแพร่ไปบริเวณกล้ามเนื้อใกล้เคียงก็อาจเกิดทำให้ตาตกได้เช่นกัน ซึ่งปัญหาที่มักจะพบเจอบ่อยก็คือปัญหาช่วงบริเวณระหว่างคิ้ว หากเราฉีดยาเยอะ หรือ ดันยาแรงจนเกินไปก็อาจทำให้ตัวยากระจายมาโดนกล้ามเนื้อบริเวณที่ช่วยในการเปิดตา ซึ่งทำให้อาจเกิดการตาตกได้3. การปฏิบัติตัว หลังจากฉีดโบท็อกซ์เราไม่ควรไปนวดคลึงบริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะบริเวณรอบๆดวงตาหลังฉีด ซึ่งถ้าเรานวดคลึงบริเวณที่ฉีดมากจนเกินไปอาจทำให้ตัวยากระจายไปยังกล้ามเนื้อมัดใกล้เคียงได้ และอาจทำให้ตาตกได้เช่นกัน
1. ถ้าเราฉีดในตำแหน่งในชั้นที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดการกระจายยา โดยแพร่ไปบริเวณกล้ามเนื้อใกล้เคียงก็อาจเกิดทำให้ตาตกได้เช่นกัน ซึ่งปัญหาที่มักจะพบเจอบ่อยก็คือปัญหาช่วงบริเวณระหว่างคิ้ว หากเราฉีดยาเยอะ หรือ ดันยาแรงจนเกินไปก็อาจทำให้ตัวยากระจายมาโดนกล้ามเนื้อบริเวณที่ช่วยในการเปิดตา ซึ่งทำให้อาจเกิดการตาตกได้

2. ถ้าเราฉีดในตำแหน่งในชั้นที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดการกระจายยา โดยแพร่ไปบริเวณกล้ามเนื้อใกล้เคียงก็อาจเกิดทำให้ตาตกได้เช่นกัน ซึ่งปัญหาที่มักจะพบเจอบ่อยก็คือปัญหาช่วงบริเวณระหว่างคิ้ว หากเราฉีดยาเยอะ หรือ ดันยาแรงจนเกินไปก็อาจทำให้ตัวยากระจายมาโดนกล้ามเนื้อบริเวณที่ช่วยในการเปิดตา ซึ่งทำให้อาจเกิดการตาตกได้

3. การปฏิบัติตัว หลังจากฉีดโบท็อกซ์เราไม่ควรไปนวดคลึงบริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะบริเวณรอบๆดวงตาหลังฉีด ซึ่งถ้าเรานวดคลึงบริเวณที่ฉีดมากจนเกินไปอาจทำให้ตัวยากระจายไปยังกล้ามเนื้อมัดใกล้เคียงได้ และอาจทำให้ตาตกได้เช่นกัน
ข้อควรปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันหนังตาตกการฉีดโบท็อกซ์
- นัดปรึกษาแพทย์ผู้ฉีดทันทีหลังมีอาการ
- เลือกโบท็อกซ์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. มีประสิทธิภาพ และสามารถตรวจสอบได้
- เลือกแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการฉีด เพราะหากโบท็อกซ์เป็นของแท้ แต่แพทย์ไม่มีความชำนาญขาดประสบการณ์ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาภายหลังได้
- งดการนวดหน้า ขัดหน้า และเลเซอร์ผิวหนัง อย่างน้อยประมาณ 2 สัปดาห์
- ภายหลังการฉีดโบท็อกซ์ 4 ชั่วโมง ไม่ควรนอนราบ
- งดการออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังฉีดโบท็อกซ์
วิธีการปฏิบัติตัวหลังจากเกิดอาการ หนังตาตก จากการฉีดโบท็อกซ์
- นัดปรึกษาแพทย์ผู้ฉีดทันทีหลังมีอาการ
- ประคบอุ่นหรือนวดด้วยเครื่อง RF
- โดยทั่วไปอาการหนังตาตกจากการฉีด botox จะสามารถดีขึ้นได้เอง ประมาณ 4-6 สัปดาห์ และร่วมกับการใช้ยาหยอดตาที่มีฤทธิ์เพิ่มการทำงานของเปลือกตาบน หรือควรบริหารกล้ามเนื้อตาอย่างสม่ำเสมอ

ดังนั้นหากจะฉีดโบท็อกซ์ที่สำคัญเลย ควรศึกษาหาข้อมูลให้รอบครอบ ดูประสบการณ์ของแพทย์ผู้ฉีด ดูรีวิวเยอะๆ สถานบริการต้องสะอาดน่าเชื่อถือผ่านการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณะสุข และ โบท็อกซ์ที่ใช้ต้องเป็นของแท้สั่งจากบริษัทโดยตรง เราสามารถโทรไปเช็คกับบริษัทนั้นๆได้เลยว่าสถานที่ที่เราไปรับบริการได้สั่งยาตรงมาจากบริษัทหรือไม่ เพื่อจะได้ไม่เกิดผลข้างเคียงตามมาภายหลัง