ฉีดไขมันเสริมหน้าอก คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง?

ฉีดไขมันเสริมหน้าอก คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง?

สาว ๆ หลายคนอาจกังวลกับขนาดของหน้าอก ที่มีขนาดค่อนข้างเล็กเกินไป หลาย ๆ คนก็ไม่มั่นใจในการแต่งตัว เลือกสรรเสื้อผ้าก็ยากแสนยาก บางคนถึงขั้นต้องยัดต้องดันเพื่อให้อกตัวเองมีขนาดใหญ่ที่สุด แต่ด้วยปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีที่ก้าวไกลไปมากทำให้การเสริมหน้าอกไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเพียงอย่างเดียว เพียงแค่ดูดแล้วฉีดก็สามารถทำให้ขนาดอกของเรานั้นใหญ่ขึ้นได้ อีกทั้งยังทำให้สัดส่วนเล็กลงอีกด้วย วันนี้ Amarante clinic จะมาพูดถึงวิธีการเสริมหน้าอกด้วยการ ฉีดไขมันเสริมหน้าอก ให้เป็นข้อมูลความรู้กันค่ะ

ฉีดไขมันเสริมหน้าอก

ฉีดไขมันเสริมหน้าอก คือ?

การ ฉีดไขมันเสริมหน้าอก ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเสริมหน้าอกโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม โดยวิธีการคือการนำไขมันตัวเองมาฉีดเติมบริเวณที่หน้าอก เพื่อให้หน้าอกมีขนาดสวยงามอวบอิ่มเต่งตึง การฉีดไขมันหน้าอกนั้น ผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติ ดูไม่แข็ง และมีสัมผัสที่นิ่มเป็นธรรมชาติ ที่ Amarante Clinic เราใช้โปรแกรม “ดูดไขมันพลังน้ำ Body-Jet” หลักการทำงานจะใช้เทคโนโลยี Water Jet กำจัดไขมันส่วนเกินด้วยพลังน้ำ เพื่อแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อ ในขณะที่พ่นน้ำยังสามารถดูดไขมันออกมาพร้อมกันในขั้นตอนเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ทำให้เกิดอันตรายและได้เซลล์ไขมันที่มีคุณภาพดี พร้อมนำไปปลูกถ่ายต่อไปยังบริเวณที่ต้องการได้ (Autologous) แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับไขมันของเราด้วยว่ามีมากเพียงพอหรือไม่ รวมถึงดุลยพินิจของแพทย์ด้วย นอกจากจะนำไขมันมาฉีดเสริมบริเวณหน้าอกแล้ว ยังสามารถฉีดไขมันแก้ไขปัญหาบริเวณใบหน้าได้เช่นกัน อาทิเช่น แก้มตอบ หน้าผากตอบ ใต้ตาคล้ำ เป็นต้น

บุคคลที่เหมาะกับการฉีดไขมันเสริมหน้าอก?

  • บุคคลที่มีไขมันสะสมในร่างกายมากเกินไปไม่ว่าจะเป็นบริเวณท้อง แขน ขา เอว อยากลดสัดส่วนและอยากให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้น ดูอวบอิ่มสวยยิ่งขึ้น
  • บุคคลที่ตัวค่อนข้างใหญ่ แต่มีขนาดหน้าอกค่อนข้างเล็ก
  • บุคคลที่อยากให้หน้าอกดูอวบอิ่มเป็นธรรมชาติ ดูยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
  • บุคคลที่มีหน้าอกหย่อนคล้อย ภายหลังจากการคลอดบุตร
  • บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากโรคที่เกี่ยวกับหน้าอก อาจมีขนาดหน้าอกไม่เท่ากันเป็นต้น
  • บุคคลที่กังวลผลข้างเคียงของซิลิโคน เพราะอาจแพ้ซิลิโคนเสริมหน้าอก
  • บุคคลที่ต้องการเสริมหน้าอก แต่ไม่อยากศัลยกรรมเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
  • บุคคลที่คำนึงถึงเรื่องอาการแพ้ ความปลอดภัย เนื่องจากใช้ไขมันตัวเองฉะนั้นจะไม่เกิดการแพ้
  • บุคคลที่มีอายุมากขึ้นอยากนำซิลิโคนออก แต่ยังคงอยากให้หน้าอกเต่งตึงอยู่

การเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันเติมหน้าอก

  • แจ้งประวัติการแพ้ยา รวมถึงโรคประจำตัว และประวัติในกรณีที่เคยมีการผ่าตัดให้แพทย์ทราบ
  • งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด (กลุ่มยาAspirin, Ibuprofen) วิตามินต่างๆ รวมถึงสมุนไพรบางชนิด อาทิ โสม ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา ก่อนรับบริการฉีดไขมันหน้าอกโดยประมาณ 2 สัปดาห์
  • งดการผ่าตัดในช่วงที่ป่วยไม่สบาย หรือ มีไข้
  • งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย2 สัปดาห์
  • ไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่ยากต่อการเช็ดออกในวันผ่าตัด
  • ควรอาบน้ำ สระผม ทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อย

ขั้นตอนการฉีดไขมันหน้าอก

  • เบื้องต้นแพทย์จะทำการประเมิณปริมาณไขมันที่ต้องใช้ในการฉีดหน้าอก และ ทำการวาดเครื่องหมายบริเวณที่ต้องการดูดและฉีด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ และดุลยพินิจของแพทย์ผู้ผ่าตัดด้วย
  • แพทย์ทำการดูดไขมันในบริเวณที่คนไข้ต้องการ จนได้สัดส่วนที่พอดีและปริมาณไขมันที่พอเหมาะ ซึ่งแต่ละสถานพยาบาลจะใช้เครื่องมือและเทคนิคที่แตกต่างกัน
  • นำไขมันที่ได้นำมาบรรจุลง Syringe เพื่อนำมาฉีดเสริมหน้าอก โดยไขมันที่ใช้จะขึ้นกับ ไขมันส่วนเกินในร่างกายของคนไข้ รวมถึงขนาดฐานหน้าอกของคนไข้
  • แพทย์ทำการ ฉีดไขมันเสริมหน้าอก ทีละข้าง ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้และความเหมาะสมโดยเทคนิคแพทย์แตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล
ขั้นตอน การ ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
ขั้นตอน การ ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
ขั้นตอน การ ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
ขั้นตอน การ ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
ขั้นตอน การ ฉีดไขมันเสริมหน้าอก

ภาพเปรียบเทียบผลการรักษาพยาบาล
** ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย **

การดูแลตัวเอง หลังฉีดไขมันบริเวณหน้าอก

  1. ในวันการทำศัลยกรรมดูดไขมัน หรือ เติมไขมัน เราควรมีเพื่อนหรือบุคคลใกล้ชิดมาด้วย เนื่องจากหลังจากการทำการดูดไขมันและเติมไขมันเราอาจจะอ่อนเพลีย เพื่อนจะสามารถช่วยดูแลเราได้
  2. รับประทานยา ประคบอุ่น ประคบเย็น ตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  3. ควรใส่ชุดกระชับรัดสัดส่วนหลังการดูดไขมัน เป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน เพื่อกระชับสัดส่วนบริเวณที่ทำการดูดไขมันไป
  4. ไม่ควรนวดหน้าอก หรือใส่บรารัดหน้าอก อาจทำให้มีผลข้างเคียงบริเวณหน้าอกได้
  5. งดการใช้แรง หรือ ออกกำลังกายหนักๆเป็นเวลา 2 เดือน
  6. ไม่ควรอดอาหารเพื่อทำการลดน้ำหนัก เพราะอาจเกิดผลกระทบต่อเซลล์ไขมันที่ปลูกย้ายได้
  7. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และแอลกอฮอลล์ทุกชนิด อย่างน้อย 7-15 วัน
  8. งดอาหารของแสลง อาหารจำพวกของหมักดอง

คำถามที่พบบ่อย?

ฉีดไขมันเสริมหน้าอกเอาไขมันมาจากตรงไหน

การนำไขมันมาฉีดเติมบริเวณหน้าอก โดยตำแหน่งที่เหมาะสมในการดูดไขมัน คือ บริเวณหน้าท้อง สะโพก บั้นเอว และต้นขา เพราะเป็นตำแหน่งที่มีไขมันค่อนข้างมาก อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งที่ทำได้สะดวก ผู้ป่วยไม่ต้องเปลี่ยนท่าบ่อยครั้งในขณะทำการผ่าตัด

ไขมันที่ต้องมาเติมใช้ปริมาณเยอะไหม ต้องดูดกี่จุด

เบื้องต้นแพทย์จะพูดคุยถามความต้องการของคนไข้ก่อน และประเมินวิเคราะห์ตามสภาพร่างกายว่าเหมาะสมหรือสามารถทำได้ตามต้องการของคนไข้หรือไม่ ในกรณีบางคนมีไขมันมากก็สามารถเสริมหน้าอกให้มีขนาดใหญ่ได้ตามต้องการ ดูดเพียงแค่บริเวณเดียวก็อาจจะเพียงพอต่อการเสริมหน้าอก ส่วนใหญ่ไขมันที่ใช้ฉีดเติมบริเวณหน้าอกจะมีปริมาณ 400 cc ขึ้นไป (เฉลี่ยขั้นต่ำข้างละ 200 cc) แต่ในกรณีบางคนไขมันในร่างกายน้อยแต่อยากได้หน้าอกที่มีขนาดใหญ่ก็จำเป็นที่จะต้องดูดไขมันในหลายๆจุดเช่นกัน เช่นบริเวณท้อง ต้นขา เป็นต้น โดยการฉีดไขมันเติมหน้าอกแพทย์จะไม่ฉีดให้มีขนาดใหญ่จนเกินไปเพื่อความเป็นธรรมชาติ

มีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง ต้องพักฟื้นไหม

หลังจากดูดไขมันและฉีดเติมบริเวณหน้าอกแล้ว อาจมีอาการอ่อนเพลียบ้างภายใน 1-3 วัน และกลับสู่ภาวะปกติ แต่ในบางคนพักผ่อนเพียงแค่วันเดียวก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ก็ต้องระมัดระวังตัวเองมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้อาจมีอาการบวมน้ำตามร่างกายในบริเวณที่เราดูดไขมัน แต่ร่างกายจะขับน้ำออกมาเรื่อยๆและกลับสู่ภาวะปกติในที่สุดสัดส่วนที่เราดูดไขมันไปแล้วก็จะมีขนาดที่เล็กลงด้วยเช่นกัน

ไขมันหลังฉีดอยู่ได้นานเท่าไหร่

การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันตนเอง สามารถอยู่กะเราได้ยาวนาน เพราะเป็นการปลูกถ่ายย้ายเซลล์ไขมัน ถ้าไขมันเกิดการติดดีแล้วก็สามารถอยู่ได้ตลอด ทั้งนี้การสลายของไขมันก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบและปัจจัยหลายๆอย่างในการดำเนินชีวิตด้วย รวมถึงอัตราการเผาผลาญของร่างกายและน้ำหนักตัวก็อาจส่งผลต่อไขมันที่ฉีดได้เช่นกัน โดยทั่วไปไขมันที่ฉีดเข้าไปจะสูญสลายไปเหลือเพียง 60 – 70 % ดังนั้นแพทย์จะฉีดไขมันให้มากกว่าปกติเล็กน้อย ในการฉีดไขมันเพื่อสร้างเต้านมใหม่ แพทย์จะพิจารณาหลายๆ ส่วนประกอบกัน เพื่อให้ผลการรักษาออกมาเป็นที่พอใจแก่คนไข้มากที่สุด

ระหว่างผ่าตัดใส่ซิลิโคนกับฉีดไขมันหน้าอกเลือกแบบไหนดี

การเสริมหน้าอกไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดใส่ซิลิโคน หรือ การดูดไขมันแล้วนำมาเติมหน้าอก มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและความต้องการของคนไข้ด้วย

ระหว่าง ผ่าตัดใส่ซิลิโคน กับ ฉีดไขมันหน้าอก เลือกแบบไหนดี

การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน : สามารถอยู่กับเรานานหลายปี ได้ขนาดที่ใหญ่ตามที่ต้องการ แต่แผลผ่าตัดอาจจะค่อนข้างใหญ่ และอาจดูไม่เป็นธรรมชาติเมื่อสัมผัสจะไม่นุ่มนวล อีกทั้งถ้ากรณีแพทย์ไม่ชำนาญหรือเป็นซิลิโคนไม่ได้มาตรฐานก็อาจทำให้เกิดอันตรายหรือเกิดพังผืดบริเวณหน้าอกได้

การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตนเอง : ส่วนกรณีเติมไขมันบริเวณหน้าอกข้อดีคือได้ลดสัดส่วนโดยการดูดไขมันส่วนเกินตามร่างกายนำมาเติมบริเวณหน้าอกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น สัดส่วนเล็กลงกระชับขึ้นและได้หน้าอกที่ใหญ่ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ได้สัมผัสที่นุ่มนวล และแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก แต่ถ้าหากไขมันในร่างกายไม่มีคุณภาพก็อาจส่งผลทำให้เซลล์ไขมันที่ปลูกถ่ายไม่ติดได้เช่นกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่างของแต่ละบุคคลด้วย

ไม่ว่าจะทำการเสริมหน้าอกด้วยไขมันตนเอง หรือ ซิลิโคน ก่อนที่เราจะตัดสินใจทำควรศึกษารายละเอียดให้รอบครอบและถี่ถ้วน ดูปัจจัยหลายๆอย่างทั้งแพทย์ที่ทำการผ่าตัด สถานพยาบาลได้มาตรฐานหรือไม่ หรือสอบถามจากบุคคลใกล้ตัวที่เคยทำหัตถการเหล่านี้ เพื่อที่เราจะได้ไม่ตัดสินใจพลาด และปลอดภัยกับตัวเราด้วยค่ะ

รีวิว ฉีดไขมันหน้าอก

รีวิวฉีดไขมันเสริมหน้าอก
รีวิวฉีดไขมันเสริมหน้าอก
รีวิว ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
รีวิว ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
รีวิว ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
รีวิว ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
รีวิว ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
รีวิว ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
รีวิว ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
รีวิว ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
รีวิว ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
รีวิว ฉีดไขมันเสริมหน้าอก
รีวิว ฉีดไขมันเสริมหน้าอก

ช่องทางติดต่อ - สาขาอารีย์

ช่องทางติดต่อ - สาขาบางนา