เสริมจมูก ด้วยการผ่าตัดแบบธรรมดา หรือ การผ่าตัดแบบปิด (Close Rhinoplasty) โดยแพทย์จะใช้วัสดุสังเคราะห์ในการเสริมจมูก เช่น ซิลิโคน ซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย โดยซิลิโคนที่ Amarante clinic เลือกใช้เป็นเกรดที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. ไม่ทำให้ติดเชื้อ และมีอายุการใช้งานยาวนาน โดยกระบวนการทำ แพทย์จะผ่าตัดสอดซิลิโคนเข้าไปตามรอยแผลผ่าตัดเล็กๆภายในช่องจมูก จากนั้นจะทำการเย็บปิดแผลตามรอยที่ผ่าตัด ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน เหมาะกับกรณีที่คนไข้มีรูปทรงจมูกของเดิมที่ดีอยู่แล้ว เช่น ฐานจมูกไม่ใหญ่จนเกินไป สันจมูกไม่แบนเรียบมากเกินไป รูปทรงจมูกไม่เบี้ยว จมูกไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไป เมื่อทำออกมาจมูกจะดูโด่งคมชัดมากยิ่งขึ้น ใบหน้าจะดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
เสริมจมูกแบบเปิด
การศัลยกรรม เสริมจมูก แบบเปิด หรือ การทำจมูกโอเพ่น (Open Rhinoplasty) เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกเยอะๆ หรือปลายจมูกโต จมูกชมพู่ และต้องการปรับโครงสร้างจมูกเพื่อแก้จมูกให้ดีขึ้น วิธีนี้ศัลยแพทย์สามารถเห็นโครงสร้างจมูกได้ทั้งหมด โดยศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณใต้ฐานจมูกและกรีดผ่าเป็นแนวดิ่งจนเห็นแกนจมูก แยกผิวหนังออกจากโครงสร้างของจมูก และทำการปรับแต่งโครงสร้างเดิมที่มีปัญหาก่อนการเสริมจมูก เหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการแก้ไขจมูก หรือคนที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกเดิม เช่น จมูกเบี้ยว มีฮัมพ์ จมูกสั้น จมูกชมพู่ เป็นต้น การเสริมจมูกแบบโอเพ่นสามารถเสริมด้วยซิลิโคน ปรับโครงสร้างจมูก และรองปลายจมูกเพื่อป้องกันการทะลุได้ทั้งหมดในคราวเดียวกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้และการวินิจฉัยของศัลยแพทย์
เสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม
เนื้อเยื่อเทียม คือสารธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการ Biotechnology เพื่อให้มีโครงสร้างทางชีวะเคมีและโครงสร้างเนื้อเยื่อเช่นเดียวกับผิวหนัง ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อผิวตามธรรมชาติ และสามารถใช้แทนผิวหนังเพื่อรองรับเนื้อเยื่อต่างๆได้ จึงนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เช่น การศัลยกรรมตกแต่ง เสริมเนื้อเยื่อผิวบริเวณจมูกภายใน ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้จมูกจากปัญหาผิวหนังบาง หรือคนที่เสริมใหม่เเละต้องการให้มีปลายที่ยาวขึ้น แต่มีผิวหนังเดิมที่ค่อนข้างน้อย เนื้อเยื่อเทียมนี้นับว่าเป็นวัสดุที่มีคุณภาพ ใช้กันอย่างแพร่หลายซึ่งไทยก็เริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่สนใจเสริมจมูก
เสริมจมูกพร้อมตัดปีกจมูก
เสริมจมูก พร้อม ตัดปีกจมูก โดยส่วนใหญ่แล้ว การตัดปีกจมูกจะเป็นหัตถการที่สามารถทำควบคู่ไปกับการแก้ไขโครงสร้างจมูกต่างๆได้ เนื่องจากบางคนมีรูปจมูกที่ใหญ่เนื้อจมูกเยอะการเสริมจมูกอย่างเดียวอาจทำให้จมูกโด่งก็จริงแต่อาจจะดูใหญ่จนเกินไป ดังนั้นการตัดปีกประกอบควบคู่กันไปด้วย จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะได้จมูกโด่งได้รูป ปีกจมูกก็ดูแคบลงและทำให้ทรงจมูกเรียวได้รูปคมชัดมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับในกรณ๊คนที่มีปีกจมูกที่กว้าง ปีกจมูกหนาจนเกินไป อยากให้จมูกดูเรียวเล็กได้รูปทรงที่ดูละมุนมีมิติมากยิ่งขึ้น
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
- ซิลิโคนสำเร็จรูปในปัจจุบันมีมากมายหลากหลายรูปทรง และหลากหลายเกรด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ควรเป็นเกรดที่สามารถอยู่กับร่างกายมนุษย์ได้โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา และต้องผ่านการรับรองจาก อย. เพื่อไม่ให้เกิดเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และเพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้ด้วย
- เนื้อเยื่อเทียม เนื้อเยื่อสังเคราะห์ คือโครงสร้างผิวหนังที่ผลิตมาจากผิวหนังมนุษย์ หรือผิวหนังสัตว์ แล้วผ่านกระบวนการเพื่อกำจัดชั้นผิวหนังกำพร้าออก ให้เหลือแต่ชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งการผ่านกระบวนการนำเซลล์ออก จะทำให้เวลานำไปใช้กับร่างกายของมนุษย์ ไม่ทำให้เกิดการต่อต้าน ผ่านกระบวนการปลอดเชื้อ Sterile ก่อนที่จะนำมาใช้กับร่างกายมนุษย์ได้ ส่วนใหญ่นำมาใช้เพื่อรองปลายจมูกให้ดูเชิดขึ้น แทนกระดูกอ่อนหลังหู แต่ก็ต้องดูที่ผ่านอย. ด้วยเช่นกันเพื่อคุณภาพและลดการเกิดผลข้างเคียงกับร่างกาย
- กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อของเราเอง เป็นวัสดุที่นำมาจากร่างกายของเราเอง โดยปกติกระดูกอ่อนที่นำออกมาใช้จะเป็นกระดูกอ่อนหลังใบหู หรือกระดูกซี่โครง โดยจะนำมาเหลาขึ้นทรงออกแบบให้เหมาะกับโครงสร้าง หรือบางทีก็จะนำส่วนของกระดูกอ่อนบริเวณหลังหูมารองปลายซิลิโคน เพื่อให้ดูเชิดขึ้น ก็เป็นวิธีที่สวยและปลอดภัย แต่วิธีนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อนดังนั้นต้องขึ้นอยู่กับการประเมินวิเคราะห์ของแพทย์ด้วย
ทำไมต้องเสริมจมูกที่ Amarante clinic
รีวิวเสริมจมูกซิลิโคน
ภาพเปรียบเทียบผลการรักษาพยาบาล
** ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย **
ภาพเปรียบเทียบผลการรักษาพยาบาล
** ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย **
การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก
- งดสูบบุหรี่ ,งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ของมึนเมาทุกชนิด อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- งดรับประทานยาแก้ปวด ยาลดกล้ามเนื้ออักเสบ ก่อนผ่าตัด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) หรือ ไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen) แต่กรณีที่จำเป็นต้องใช้ แนะนำให้ใช้ยาพาราเซตามอนในการบรรเทาอาการปวดเท่านั้น
- งดรับประทานวิตามิน น้ำมันตับปลา อาหารเสริมต่างๆ ทุกชนิด เนื่องจากอาหารเสริมเหล่านี้ อาจส่งผลให้เลือดหยุดไหลช้า
- งดของแสลงจำพวกของหมักดอง น้ำอัดลม รวมถึงอาหารทะเล
- ในกรณีที่ต้องวางยานอนหลับขณะผ่าตัด (เทคนิค Nose Reconstruction) คนไข้ต้องงดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 8 ชม. และควรสระผมให้สะอาด งดทาครีมโลชั่นหรือทาเล็บในวันผ่าตัด
ขั้นตอนการเสริมจมูกแบบปิด
- เริ่มจากปรึกษากับแพทย์ แพทย์ทำการวิเคราะห์และประเมิน
- ทำความสะอาดจมูกและให้ยาฆ่าเชื้อ (รวมถึงตัดขนจมูก)
- ฉีดยาชาบริเวณรอบจมูก
- แพทย์ทำการเหลาซิลิโคนให้ทรงพอดีกับความต้องการของคนไข้และรับกับใบหน้าของคนไข้
- กรีดเปิดแผลบริเวณขอบรูจมูกยาวประมาณ 1 ซ.ม. เพื่อสร้างช่องว่างที่สันจมูกใต้เยื่อหุ้มกระดูกจมูกแล้วใส่แท่งซิลิโคนเข้าไป
- เมื่อจัดวางซิลิโคนเรียบร้อยดีแล้วก็จะเย็บปิดแผล ปิดตามด้วยพลาสเตอร์หรือเฝือกจมูกเพื่อป้องกันตัวจมูก และลดอาการบวม
- การผ่าตัดใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 30-60 นาที ก็ได้จมูกโด่งสวยสมใจ นอนพักเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง ก็สามารถกลับไปพักต่อที่บ้านได้
ขั้นตอนการเสริมจมูกแบบเปิด
- ปรึกษากับแพทย์ แพทย์ทำการวิเคราะห์และประเมิน
- ทำความสะอาดจมูกและให้ยาฆ่าเชื้อ (รวมถึงตัดขนจมูก)
- ดมยาสลบ (ภายใต้การดูแลของวิสัญญีแพทย์)
- แพทย์จะเปิดแผลบริเวณใต้ฐานจมูก กรีดผ่าเป็นแนวดิ่งจนเห็นแกนจมูก แยกผิวหนังออกจากโครงสร้างของจมูก เพื่อให้สามารถเห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมด
- ปรับแต่งโครงสร้างเดิมที่มีปัญหาก่อนการเสริมจมูก เช่น การตัดแต่งกระดูกจมูกเดิมที่คดเบี้ยว การตะไบกระดูกสันจมูกนูน (ฮัมพ์) หรือหากคนไข้มีจมูกสั้นก็สามารถใช้กระดูกผนังกั้นจมูกยืดความยาว เป็นต้น
- ทำการเสริมด้วยซิลิโคน หรือ กระดูกอ่อนของคนไข้ หรือเสริมด้วยซิลิโคนร่วมกับการการใช้กระดูกอ่อนส่วนต่างๆ
- หลังจากทำการปรับแต่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ทำการเย็บแผลปิด
- การผ่าตัดแบบโอเพ่น จะใช้เวลาอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง
การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก
- แนะนำให้หลีกเลี่ยงการกดรุนแรงบริเวณจมูก เพื่อป้องกันให้จมูกหลังผ่าตัดกลับสู่สภาพปกติให้เร็วที่สุด
- ใน 48 ชั่วโมงแรกควรประคบเย็นบริเวณระหว่างคิ้วและตาทั้งสองข้าง และหลังจากสองวันจึงเริ่มประคบอุ่น
- ห้ามนอนคว่ำหน้า โดยให้นอนหงายและนอนยกหัวสูงขึ้นอย่างน้อย 30 องศา โดยประมาณ 7 วัน เพื่อลดอาการบวมและป้องกันการเกิดจมูกเอียง
- ห้ามให้แผลผ่าตัดโดนน้ำอย่างน้อย 7 วัน โดยการทำความสะอาดให้ใช้กระดาษซับมันซับน้ำมันบริเวณใบหน้า ใช้สำลีหรือผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นหมาดๆเช็ดให้ทั่วใบหน้า
- ผู้รับการผ่าตัดควรงดแต่งหน้า และควรอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แห้งและเย็น พยายามหลีกเลี่ยงฝุ่นละออง
- ถ้ามีน้ำมูกให้รีบรับประทานยาแก้แพ้เพื่อลดน้ำมูกทันที พยายามหลีกเลี่ยงการไอ จาม สั่งน้ำมูกซึ่งจะทำให้จมูกได้รับการกระทบกระเทือนหรือสกปรก
- งดทานอาหารจำพวกของหมักดอง อาหารรสจัด วิตามิน อาหารเสริม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน
- หลังแกะเฝือกจมูกออก แนะนำให้ใส่เฝือกเฉพาะตอนกลางคืนต่ออีก 7 วัน เพื่อป้องกันการกระแทกโดยไม่ตั้งใจ
- หากมีเลือดและน้ำเหลืองซึมบริเวณบาดแผล สามารถใช้สำลี หรือไม้พันสำลีซับเบาๆและแต้มครีมยาฆ่าเชื้อเบาๆ
- ให้รับประทานอาหารอ่อนๆ งดรับประทานอาหารที่เหนียวหรือต้องเคี้ยวมากๆ
- งดการยิ้มปากกว้าง หัวเราะ หรือขยับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้ามากเกินไปในช่วงเดือนแรก เพื่อหลีกเลี่ยงการกระแทกหรือขยับเขยื้อนของจมูก
- ห้ามออกกำลังกายหนักในช่วง 1 เดือนแรก
- หลีกเลี่ยงการสวมแว่นตาในช่วง 1 เดือนแรก หลังการผ่าตัด หรือแล้วแต่วิจารณญาณของแพทย์
- ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ถอดได้ง่าย เพื่อลดการสัมผัสของจมูกในขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า
- การใช้ยารักษาแผลเป็น สามารถใช้ได้หลังจากแผลแห้งแล้วเท่านั้น โดยสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่2 สัปดาห์ หลังการผ่าตัด
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด และมาตรวจตามนัดของแพทย์ตามกำหนดเวลาอย่างเคร่งครัด
บทความที่เกี่ยวข้อง
- อ่านบทความเพิ่มเติม : วิดีโอรีวิว เสริมจมูก
- อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์จมูก VS เสริมจมูก
- อ่านบทความเพิ่มเติม : ศัลยกรรม ตาสองชั้น
- อ่านบทความเพิ่มเติม : ศัลยกรรม ผ่าตัดถุงใต้ตา
- อ่านบทความเพิ่มเติม : ศัลยกรรม ตาสองชั้น