ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? วิธีช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น?

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? วิธีช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่นานขึ้น?

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและบริเวณของการฉีด รวมทั้งจุดประสงค์ในการฉีด นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความถี่ในการเคลื่อนไหวของผิวหนัง การดูแลรักษาหลังการฉีด และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลอีกด้วย วันนี้จึงพามาทำความเข้าใจถึงอายุการทำงานของฟิลเลอร์ยี่ห้อต่างๆ ว่าแตกต่างกันอย่างไร? รวมถึงวิธีที่จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นกันค่ะ

ทำโปรแกรมฉีด ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?

การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ นั้น มีหลายปัจจัยที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่นานตามอายุฟิลเลอร์ หรือมากน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ บางยี่ห้ออยู่ได้ 6-8 หรือ 8-12 หรือบางยี่ห้อที่สามารถอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน และต้องเป็นฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย จะสามารถสลายได้เอง โดยให้เกิดอันตราย รวมถึงการดูแลของแต่ละบุคคลอีกด้วย จึงเทียบให้เห็นกันชัดๆว่า ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? โดยแยกเป็นแต่ละยี่ห้อกันไปเลย

1. Juvederm (จากประเทศสหรัฐอเมริกา)

มีให้เลือก 5 รุ่น ที่เหมาะกับการฉีดในบริเวณหรือจุดที่มีปัญหา ซึ่งเป็นยี่ห้อที่เป็นที่นิยมสูงมาก เพราะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง อยู่ได้นานกว่ารุ่นอื่น ฉีดเพื่อปรับรูปหน้า ได้ผิวหน้ายกกระชับ เพราะเนื้อฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้ดี ช่วยให้ผิวอิ่มฟู ชุ่มชื้น และยังมีเนื้อฟิลเลอร์มีความเรียบเนียน เหมาะนำมาฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า เหมาะกับทั้งคนที่ต้องการปรับโครงหน้า และแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกต่างๆ

ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : 12 – 18 เดือน
ราคาโดยประมาณ : 15,000 – 20,000 บาท /cc

2. Belotero (จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์)

มี 5 รุ่น ให้เลือกฉีดตามแต่ละจุดที่มีปัญหา เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นของเนื้อเจล มีความหนาแน่น เป็นเนื้อเดียว เหมาะกับการเติมเต็มร่องตื้น หลุมสิว ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : 6 – 12 เดือน ราคาโดยประมาณ : 10,000 -20,000 บาท /cc

3. Restylane (จากประเทศสวีเดน)

มี 7 รุ่น ให้เลือกฉีดตามแต่ละจุดที่มีปัญหา โดยขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์เป็นเม็ดใหญ่ ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น เนื้อฟิลเลอร์มีค่าความแข็งสูง ทำให้เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอยร่องตื้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : 6-12 เดือน ราคาโดยประมาณ : 14,000 -20,000 บาท/cc

4. Neuramis (จากประเทศเกาหลี)

มี 5 รุ่น แต่มีเพียง 3 รุ่นเท่านั้นที่ผ่านอย.ไทย ให้เลือกฉีดตามแต่ละจุดปัญหา เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง และมีความหนาแน่น เป็นเนื้อเดียว เหมาะกับการเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกระดับปานกลาง และเพิ่มความชุ่มชื้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : 6-12 เดือน ราคาโดยประมาณ : 8,000 – 9,900 บาท /cc

5. YVOIRE (จากประเทศเกาหลี)

มีทั้งหมด 3 รุ่น เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น คงรูปได้ดี ยึดเกาะแน่น แก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก ราคาไม่สูง เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่ผ่าน อย.ไทย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : 8 – 12 เดือน ราคาโดยประมาณ : 7,000 – 8,900 บาท /cc

วิธีที่ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

หลีกเลี่ยงการกดทับในบริเวณที่ฉีดใน 24 ชั่วโมงแรก
หลังฉีดควรควรนอนหงายอย่างน้อย 2 คืน
ไม่สัมผัสหรือถูแรง ๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
เลี่ยงความร้อนทุกชนิดประมาณ 2 สัปดาห์ เช่น การซาวน่า หรือการทำเลเซอร์
ช่วงแรกไม่ควรดื่นน้ำเยอะ แต่ให้ดื่มน้ำให้มากในช่วง 4-5 วันหลังจากฉีดฟิลเลอร์ วันละ 12 แก้ว เพราะน้ำจะเข้าไปช่วยเสริมกับฟิลเลอร์ที่คงรูป ให้อยู่ได้นานขึ้น
การใช้งานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด หากจุดไหนที่มีการขยับเยอะ ๆ ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าอายุจริงได้

7. เทคนิคการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ของแพทย์

หลายคนไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์มีผลต่อการช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น เพราะเทคนิคเหล่านี้สามารถทำให้ฟิลเลอร์ช่วยคงผลลัพธ์ที่ดี ช่วยยกพยุง หรือป้องกันการเกิดความหย่อนคล้อยของผิวหน้าในอนาคตได้นานขึ้น ดังนั้นการเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีเทคนิคเฉพาะจึงสำคัญมาก ไม่เพียงแต่การลดความเสี่ยงของการเกิดฟิลเลอร์เป็นก้อน และเพื่อความปลอดภัยต่อผู้รับบริการเอง แต่ยังช่วยให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป อยู่ได้นานขึ้น

โดยที่อะมารันเต้คลินิก โดดเด่นเรื่องโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ นำทีม คุณหมอต้น อาจารย์ นพ.สฤษดิ์ ตันติอภิชาต อาจารย์ด้านการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ ซึ่งแพทย์ที่มีความชำนาญในการประเมินรูปหน้า วิเคราะห์ถึงปัญหาและเลือกใช้ฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม กับตำแหน่ง ดีกรีรางวัลยอดฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ และโปรแกรมToxin (สารลดเลือนริ้วรอย) สูงสุดในไทย ปี 2021-2023 และ เป็นคลินิกแนวหน้าในประเทศที่มียอดฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์มากสุดในไทยถึง 8 ซ้อน ปี 2016-2023 (Single Clinic) อะมารันเต้คลินิกจึงมั่นใจ และโดดเด่นในเรื่องฟิลเลอร์จนมีดาราเซเลบ และผู้รับบริการจำนวนมาก